เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S24 Ultra และ Samsung Galaxy S23 Ultra ต่างกันยังไง อะไรดีขึ้น ซื้อรุ่นไหนดี

เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S24 Ultra และ Samsung Galaxy S23 Ultra ต่างกันยังไง อะไรดีขึ้น ซื้อรุ่นไหนดี

 

Samsung Galaxy S24 Series ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งพระเอกของเรือธงซีรีส์นี้ก็จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากตัวท็อปอย่าง Samsung Galaxy S24 Ultra สำหรับใครที่กำลังสนใจมือถือเรือธงรุ่นนี้ อาจจะกำลังสงสัยว่า Samsung Galaxy S24 Ultra รุ่นใหม่นั้นต่างจาก Samsung Galaxy S23 Ultra เมื่อปีที่แล้วอย่างไร และมีการอัปเกรดขึ้นแค่ไหน ที่สำคัญคือจะเลือกซื้อรุ่นไหนดี ณ เวลานี้ เราจึงได้นำ Samsung Galaxy S24 Ultra และ Samsung Galaxy S23 Ultra มาเปรียบเทียบให้ดูกัน พร้อมสรุปความแตกต่างให้เห็นกันชัด ๆ ไปเลยครับ

 

เปรียบเทียบ
Samsung Galaxy S24 Ultra vs S23 Ultra

มีดีที่ AI!

หากดูจากตารางเปรียบเทียบข้างต้น จะเห็นว่า Galaxy S24 Ultra ไม่ได้มีสเปกที่แตกต่างไปจาก Galaxy S23 Ultra เท่าไหร่ แต่ทีเด็ดที่แท้จริงของ S24 Ultra นั้นอยู่ที่ AI ซึ่งเรียกได้ว่าเปิดประสบการณ์การใช้งานมือถือแบบใหม่กันเลยทีเดียว อาทิเช่น ระบบ AI แปลภาษาที่แปลสดระหว่างคุยสายได้ และแปลสิ่งที่เราพิมพ์เป็นภาษาอื่นได้ทันทีก่อนกดส่ง แถมยังเลือกระดับความเป็นทางการของภาษาได้ นอกจากนี้ยังมี AI ช่วยเรียบเรียงและสรุปโน้ต, วงกลมอะไรก็ได้บนจอเพื่อค้นหาใน Google ไปจนถึง AI แต่ภาพที่ทรงพลัง และที่สำคัญยังใช้งานง่ายอีกด้วย

 

ดีไซน์และวัสดุ

Galaxy S24 Ultra และ S23 Ultra ยังคงมีดีไซน์ที่เหมือนเดิม แต่จะแตกต่างกันตรงที่ Galaxy S24 Ultra รุ่นใหม่จะไม่ได้ใช้จอขอบโค้งแล้ว และเปลี่ยนไปใช้เฟรมเครื่องไทเทเนียมอัลลอยที่มีความทนทาน และเบากว่าแทน

 

หน้าจอแสดงผล

หน้าจอแสดงผลของ S24 Ultra และ S23 Ultra ยังคงมีขนาด 6.8 นิ้ว และมีความละเอียดที่ระดับ QHD+ เท่ากัน แต่จอของ S24 Ultra จะเป็นจอขอบไม่โค้ง และเร่งความสว่างได้มากกว่า ช่วยให้สู้แสงแดดกลางแจ้งได้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ยังใช้กระจกกันรอยรุ่นใหม่ล่าสุด Gorilla Glass Armor ที่กันรอยได้ดีขึ้น 4 เท่า พร้อมช่วยลดการสะท้อนของหน้าจอ ซึ่งช่วยได้มากเวลาใช้งานกลางแจ้ง

 

ชิปเซ็ต และประสิทธิภาพ

Snapdragon 8 Gen 3 ของ S24 Ultra มีประสิทธิภาพสูงกว่า Snapdragon 8 Gen 2 ใน S23 Ultra พอสมควร โดยมากับ CPU ที่แรงขึ้น 30% และประหยัดพลังงานมากขึ้น 25% ส่วน GPU หรือหน่วยประมวลผลกราฟิก แรงขึ้น 25% และประหยัดพลังงานมากขึ้น 25% ซึ่งหมายถึงการทำงานที่รวดเร็วขึ้น และการเล่นเกมที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ ในการใช้งานทั่วไปอาจจะไม่ค่อยรู้สึกถึงความแตกต่างสักเท่าไหร่ เพราะชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 ของ S23 Ultra ก็ถือว่าแรงแบบเหลือ ๆ อยู่แล้ว

อย่างไรก็ดี ความโดดเด่นที่แท้จริงของ Snapdragon 8 Gen 3 ใน S24 Ultra ไม่ใช่ความแรงของ CPU หรือ GPU แต่เป็น NPU หรือหน่วยประมวลผล AI ซึ่งในรุ่นนี้อัปเกรดให้เร็วขึ้น 2 เท่า และประหยัดพลังงานกว่าเดิม 40% นั้นทำให้ S24 Ultra ปลดล็อกฟังก์ชั่น AI ใหม่ ๆ ได้หลายอย่างตามที่กล่าวไปข้างต้นนั่นเอง

 

กล้อง การถ่ายภาพนิ่ง และวิดีโอ

หากดูจากสเปก Galaxy S24 Ultra กับ Galaxy S23 Ultra มีสเปกที่เหมือนกันมาก ต่างกันตรงที่ S24 Ultra จะอัปเกรดกล้องซูมด้านหลังตัวหนึ่งเป็น Periscope 50MP
จากสเปกจะเห็นว่ากล้องซูมตัวใหม่ของ S24 Ultra รองรับการซูม Optical 5x แต่ของ S23 Ultra จะรองรับมากถึง 10x อย่างไรก็ดี S24 Ultra ใช้ระบบการซูมแบบผสมผสานจากกล้องซูมทั้ง 2 ตัว ทำให้มีระยะซูม Optical มากสุด 10x เท่ากัน แต่มีคุณภาพของรูปถ่ายที่ดีกว่า และคมชัดกว่า ด้วยพลังของเอนจิ้นประมวลผลภาพรุ่นใหม่ ProVision Engine ที่อาศัยพลังของ AI เข้ามาช่วย

 

แบตเตอรี และระบบชาร์จไว

สำหรับแบตเตอรี และระบบชาร์จไวยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยยังเป็นแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh ที่รองรับระบบชาร์จไว 45W อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่ของ S24 Ultra อาจจะอึดกว่า เพราะชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 กินพลังงานน้อยลง และยังมี AI ช่วยจัดสรรพลังงานด้วยอีกแรง แต่จะอึดกว่าแค่ไหนนั้น ต้องรอทดสอบกับเครื่องจริงกันอีกที

 

ซื้อ Galaxy S24 Ultra หรือ Galaxy S23 Ultra ดี?

โดยรวมแล้ว Galaxy S24 Ultra ไม่ได้อัปเกรดจากรุ่นเดิมมากนักในแง่ของสเปกฮาร์ดแวร์ แต่มากับฟังก์ชั่น AI ที่น่าสนใจ และใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง ทำให้เราสามารถใช้งาน Galaxy S24 Ultra ได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น และจะช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้นมากแน่นอน ดังนั้นหากไม่ติดขัดเรื่องงบประมาณ ก็แนะนำให้ซื้อ Galaxy S24 Ultra รุ่นใหม่ดีกว่า

อย่างไรก็ดี สำหรับใครที่ต้องการประหยัดงบ และต้องการมือถือสเปกแรง ๆ โดยไม่ได้คิดจะใช้ฟังก์ชั่น AI มากมาย Galaxy S23 Ultra ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะหลังจากนี้ราคาน่าจะลดลงตามลำดับ และสเปกก็ยังถือว่าสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของวงการอยู่ครับ

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

 

วันที่ : 18/1/2567