รีวิว HUAWEI FreeClip อิสระแห่งการฟังกับหูฟังไร้สายดีไซน์ C-Bridge ใส่สบายได้ทั้งวัน พร้อมแบตอึด ๆ 32 ชั่วโมง ในราคา 6,490 บาท

รีวิว HUAWEI FreeClip อิสระแห่งการฟังกับหูฟังไร้สายดีไซน์ C-Bridge ใส่สบายได้ทั้งวัน พร้อมแบตอึด ๆ 32 ชั่วโมง ในราคา 6,490 บาท

 

เพิ่งจะเข้าสู่ปี 2024 ไม่นาน HUAWEI ก็ได้ส่งหูฟัง TWS รุ่นใหม่ออกมาตีตลาดเมืองไทยกันแล้ว โดยคราวนี้เป็น HUAWEI FreeClip หูฟังแบบ Open-Ear ที่มีดีไซน์แหวกแนวไม่เหมือนใครครับ

HUAWEI FreeClip เป็นหูฟังระดับพรีเมียมที่มีจุดเด่นอยู่ที่ดีไซน์แบบ C-Bridge ซึ่งให้ความรู้สึกในการสวมใส่ที่ปลอดโปร่ง โล่งสบายในทุกโอกาส พร้อมระบบลดเสียงรบกวน และแบตเตอรี่สุดอึดที่ใช้งานได้นานสุดถึง 32 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมากับคุณสมบัติครบครัน ไม่ว่าจะเป็นไดรเวอร์ไดนามิกแม่เหล็กคู่ขนาด 10.86 มม. ที่ให้เสียงคุณภาพสูง, ระบบตัดเสียงรบกวนขณะคุยสาย AI Cystal-Clear Call และคุณสมบัติกันน้ำ-กันเหงื่อระดับ IP54 ดูแล้วถือว่าเป็นหูฟังไร้สายอีกรุ่นหนึ่งที่โดดเด่น และน่าสนใจมาก ๆ ของปีนี้

มาถึงตรงนี้หลายคนคงอยากจะไปทำความรู้จักกับหูฟังรุ่นนี้กันแล้ว ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปชม รีวิว HUAWEI FreeClip รุ่นนี้กันเลยครับ

 

สเปกของ HUAWEI FreeClip

  • ขนาดหูฟัง: 22 มม. (สูง) × 15.65 มม. (กว้าง) × 10.34 มม. (ลึก)
  • ขนาดเคสชาร์จ: 59.7 มม. (สูง) × 51.95 มม. (กว้าง) × 27.35 มม. (ลึก)
  • น้ำหนักหูฟัง: 5.6 ก. ± 0.3 ก
  • น้ำหนักเคสชาร์จ: 45.8 ก. ± 2 ก
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.3
  • หูฟังระบบไดรเวอร์คู่: ไดรเวอร์ความไวสูงแบบแม่เหล็กคู่ขนาด 10.8 มม.
  • ช่วงตอบสนองความถี่: 20 Hz – 20 kHz
  • ไมโครโฟน: ไมโครโฟน  3 ตัว + ไมโครโฟน โบน คอนดักส์ชั่น 1 ตัว
  • เทคโนโลยีเสียง: Digital cross-over/Triple Adaptive EQ/Active noise cancellation/Call noise cancellation/Transparency Mode
  • ความจุแบตเตอรี่: หูฟัง 55 mAh / เคสชาร์จ 510 mAh
  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่     
  • การเล่นเพลง: 8 ชั่วโมงหลังจากชาร์จเต็ม และ 36 ชั่วโมงเมื่อใช้กับกล่องชาร์จ
  • การคุยโทรศัพท์: 5 ชั่วโมงหลังจากชาร์จเต็ม และ 20 ชั่วโมงเมื่อใช้กับกล่องชาร์จ
  • เวลาในการชาร์จ:     
    • ประมาณ 40 นาที สำหรับหูฟังเอียร์บัด (ในกล่องชาร์จ)
    • ประมาณ 60 นาที สำหรับกล่องชาร์จที่ไม่มีหูฟัง (แบบมีสาย)
    • ประมาณ 150 นาที สำหรับกล่องชาร์จที่ไม่มีหูฟัง (ไร้สาย)    
  • คุณสมบัติกันน้ำ-กันฝุ่น IP54 (เฉพาะหูฟัง)
  • รองรับไฟล์เสียง SBC,AAC,L2HC และ LC3

ดีไซน์ภายนอก และคุณสมบัติทั่วไป

HUAWEI FreeClip เป็นหูฟังแบบ Open-Ear ที่มีดีไซน์แตกต่างไปจากหูฟังทั่วไปที่เรารู้จักกัน โดยเป็นดีไซน์ที่เรียกว่า C-bridge ตัวหูฟังแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่เป็นลูกบอลอคูสติก และส่วนที่เป็น Comfort Bean รูปทรงคล้ายเม็ดถั่ว ซึ่งมีขั้วแม่เหล็กสำหรับชาร์จกับเคส ทั้งสองส่วนเชื่อมกันด้วยก้านพลาสติก TPU

ทั้งนี้ หูฟังแต่ละข้างไม่มีการระบุซ้าย-ขวา สามารถสวมใส่กับหูข้างไหนก็ได้ โดย AI ของตัวหูฟังจะปรับสัญญาณเสียงซ้าย-ขวาให้โดยอัตโนมัติ

 

หูฟังแต่ละข้างมีน้ำหนักเบาเพียง 5.6 กรัมต่อข้าง และมีคุณสมบัติกันน้ำระดับ IP54 สามารถป้องกันเหงื่อและละอองน้ำได้ และไม่มีจุกซิลิโคน ตัวก้านมีความยืดหยุ่นสูง สามารถคืนตัวได้ดี

 

การสวมใส่ HUAWEI FreeClip จะเป็นการหนีบเอาไว้ที่บริเวณใบหู ส่วนที่เป็นลำโพงจะไม่เข้าไปในช่องหูเหมือนหูฟังแบบ In-Ear จึงให้ความรู้สึกที่ปลอดโปร่ง โล่งสบายกว่า และไม่ต้องกังวลเรื่องขนาดของช่องหู ไม่ว่าจะมีช่องหูเล็กหรือใหญ่ก็สวมใส่ได้หมดครับ

 

สำหรับเคสชาร์จของ HUAWEI FreeClip มีดีไซน์ที่เรียบง่ายด้วยรูปทรงที่โค้งมน กับผิวสัมผัสแบบด้าน (ต่างจากตัวหูฟังที่เป็นผิวเงา) และมีน้ำหนักประมาณ 50 กรัม

 

ด้านขวาของตัวเคสมีปุ่มกดสำหรับเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ส่วนใต้ตัวเคสมีพอร์ตชาร์จ USB-C ตัวเคสไม่มีคุณสมบัติกันน้ำ

 

สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องประกอบด้วยคู่มือ, ใบรับประกัน และสายชาร์จ USB-C
 

การเชื่อมต่อ

HUAWEI FreeClip สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ iOS และ Android ผ่านแอปพลิเคชัน HUAWEI AI Life ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จากลิงค์ด้านล่าง

ดาวน์โหลด Huawei AI Life สำหรับสมาร์ทโฟน HUAWEI

ดาวน์โหลด Huawei AI Life สำหรับสมาร์ทโฟน Android

ดาวน์โหลด Huawei AI Life สำหรับ iPhone

 

เมื่อติดตั้ง Huawei AI Life เรียบร้อยแล้ว ให้เปิดแอปขึ้นมา แล้วแตะที่เครื่องหมาย + มุมขวาบนเพื่อเพิ่ม HUAWEI FreeClip เข้าไปในโปรไฟล์ แอปจะเปิด Bluetooth ขึ้นมา ถึงตรงนี้ให้เราเปิดฝา HUAWEI FreeClip ค้างไว้ แล้วเลือกเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้เลย

 

ภายในแอป HUAWEI AI Life เราจะสามารถดูสถานะแบตเตอรี่ของหูฟังและเคสชาร์จได้ รวมถึงสามารถปรับแต่งเอฟเฟ็กต์เสียง EQ, ปรับเปลี่ยนวิธีการควบคุม และการอัปเดตเฟิร์มแวร์
 

การควบคุมสั่งการ

เราสามารถควบคุมการเล่นเพลงและการโทรผ่านทางหูฟัง HUAWEI FreeClip ด้วยการแตะที่ตัวหูฟังตรงไหนก็ได้ โดยมีวิธีการดังนี้: 

  • แตะ 2 ครั้งข้างไหนก็ได้: รับสาย/วางสาย/หยุดเพลง
  • แตะ 3 ครั้งข้างไหนก็ได้: เล่นเพลงต่อไป

นอกจากนี้ เรายังสามารถเข้าไปปรับเปลี่ยนการควบคุมเองได้ในแอป HUAWEI AI Life ครับ

คุณภาพเสียง และความรู้สึกในการสวมใส่

HUAWEI FreeClip ให้ความรู้สึกในการสวมใส่ที่แตกต่างจากหูฟังอื่น ๆ เพราะวิธีการใส่เป็นการหนีบเอาไว้ที่ใบหู ไม่ได้ใส่เข้าไปในช่องหูโดยตรง ข้อดีของดีไซน์แบบนี้คือไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด สามารถใช้งานได้นานโดยไม่ปวดหู ให้ความรู้สึกในการสวมใส่ที่ปลอดโปร่ง จนบางครั้งก็ลืมไปเลยว่ากำลังใส่หูฟังอยู่ สามารถพูดได้เต็มปากว่า HUAWEI FreeClip เป็นหูฟังที่ใส่สบายได้ทั้งวันอย่างแท้จริง

ด้วยลักษณะการสวมใส่ที่เป็นการหนีบเอาไว้เฉย ๆ ทำให้ตัวผู้รีวิวเองก็กังวลอยู่เหมือนกันว่าหูฟังจะหลุดง่าย แต่เมื่อได้ลองใช้ดูจริง ๆ กลับพบว่าหูฟังหนีบกับใบหูได้แน่นกระชับกว่าที่คิด แม้จะใส่วิ่ง หรือโยกหัวแรง ๆ ก็ไม่หลุด สามารถใส่ทำกิจวัตรประจำวันได้สบาย ๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องหล่นหายเลย

ในเรื่องของคุณภาพเสียง HUAWEI FreeClip มีความโดดเด่นในเสียงย่านกลาง และย่านสูง ซึ่งสามารถเก็บรายละเอียดได้ดี มีเวทีเสียงกว้าง ปลอดโปร่ง ไม่อึดอัด และเสียงดังฟังชัด พร้อมกันนี้ยังให้ทิศทางของเสียงที่สมจริง แม่นยำจนรู้สึกได้ อย่างที่คาดหวังจากหูฟังระดับไฮเอนด์ แต่ด้วยธรรมชาติของหูฟังแบบ Open-Ear เสียงเบสของ HUAWEI FreeClip จะไม่ค่อยหนักแน่น และไม่มีแรงกระแทก แต่ก็ยังมีเนื้อเสียงทีดี พอให้ฟังสนุกได้อยู่

ทั้งนี้ HUAWEI FreeClip ไม่มีระบบตัดเสียงรบกวน หรือ ANC แต่ตัวหูฟังมีระบบ Reverse Elimination Waves ซึ่งจะปล่อยคลื่นเสียงจากตัวลูกบอลอคูสติกมาหักล้างเสียงรบกวนภายนอก ทำให้เสียงจากหูฟังเข้าไปในหูเต็ม ๆ โดยไม่ถูกรบกวน แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ตัดขาดจากโลกภายนอกเหมือนกับหูฟังแบบ In-Ear หรือระบบ ANC ทำให้เรายังรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวได้อยู่ จึงเหมาะกับการเดินทางสัญจรที่ต้องดูสภาพแวดล้อมไปด้วย อย่างเช่นการวิ่งจ็อกกิ้ง หรือเดินบนถนน เป็นต้น

ส่วนคุณภาพเสียงขณะโทร HUAWEI FreeClip ก็ทำได้ดีเช่นเดียวกัน โดยให้เสียงสนทนาที่ชัดเจนทั้งสองฝั่ง และสามารถตัดเสียงรบกวนจากบรรยากาศรอบข้างได้พอสมควร โดยมีไมโครโฟนตัดเสียงลม 2 ตัวอยู่ที่ Comfor Bean แต่หากไปอยู่ในจุดที่จอแจจริง ๆ อย่างท่ามกลางฝูงชน หรือใกล้ถนนที่มีรถพลุกพล่าน ระบบนี้ก็อาจจะเอาไม่อยู่ครับ

และสำหรับความอึดของแบตเตอรี HUAWEI FreeClip สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 9 ชั่วโมง หากใช้ร่วมกับเคสชาร์จจะใช้งานได้นานสุดประมาณ 32 ชั่วโมง สามารถใช้งานได้ถึง 2-3 วันเลยทีเดียว ซึ่งน่าประทับใจมาก ๆ อาจจะเพราะไม่มีระบบ ANC ด้วย ทำให้ไม่กินแบตเตอรี่เท่าไหร่ครับ

 

สรุปการรีวิว

จุดที่น่าประทับใจที่สุดของ HUAWEI FreeClip อยู่ที่ความสบายในการสวมใส่ที่ได้จากดีไซน์แบบ C-Bridge ซึ่งออกแบบมาได้อย่างลงตัว ทั้งรูปทรงที่ดูเข้ากับแฟชั่น, น้ำหนักที่เบา และการหนีบที่กระชับกำลังดี แต่ไม่หลุดง่าย จึงให้ความรู้สึกในการใช้งานที่สบาย ไม่ปวดหู ชนิดที่ว่าอาจจะลืมไปเลยว่าใส่หูฟังอยู่ ถ้าใครอยากได้หูฟังที่ใส่สบาย HUAWEI FreeClip ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน

สำหรับคุณภาพเสียงโดยรวมของ HUAWEI FreeClip ก็จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี สมฐานะหูฟังระดับพรีเมียม โดยมีความโดดเด่นย่านเสียงกลาง และเสียงสูง แต่ด้วยธรรมชาติของหูฟัง Open-Ear เสียงเบสจะไม่หนักแน่นเท่ากับหูฟังแบบอื่น อาจไม่เหมาะกับคนที่ชอบเบสหนัก ๆ ที่มีแรงกระแทกเน้น ๆ เป็นลูก ๆ แต่ก็ยังถือว่าฟังสนุกอยู่ และเหมาะกับการฟังเพลงหลากหลายแนว รวมถึงพอดแคสต์ต่าง ๆ

HUAWEI FreeClip ไม่มีระบบตัดเสียงรบกวน ANC แต่มีระบบลดเสียงรบกวน Reverse Elimination Waves ที่ช่วยให้เสียงจากหูฟังถูกส่งเข้าไปในหูของเราได้อย่างชัดเจน ข้อดีของระบบนี้คือเรายังได้ยินเสียงสภาพแวดล้อมรอบ ๆ อยู่ อย่างเช่นเสียงรถยนตร์ หรือเสียงแตร ซึ่งก็จะช่วยให้เราปลอดภัยมากขึ้น เหมาะกับคนที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือคนที่ต้องเดินทางสัญจรบ่อย ๆ

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ HUAWEI FreeClip คือแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างอึดทีเดียวเมื่อเทียบกับหูฟัง TWS รุ่นอื่น ๆ โดยใช้งานได้นานสุดถึง 32 ชั่วโมง หากเป็นการใช้งานปกติก็จะสามารถอยู่ได้ถึง 2-3 วันเลยทีเดียว

การคุยสายในสภาวะปกติ HUAWEI FreeClip ก็ทำได้ดีเช่นกัน โดยให้เสียงที่ชัดใสทั้งต้นสายและปลายสาย และสามารถตัดเสียงรบกวนรอบช้างได้บ้าง แต่หากอยู่ในสถานที่ที่มีความพลุกพล่านจอแจมาก ๆ ก็อาจจะเอาไม่อยู่

โดยรวมแล้ว HUAWEI FreeClip เป็นหูฟังที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการหูฟังที่ใส่สบาย ใส่ได้นาน และแบตเตอรี่อึด ๆ พร้อมคุณภาพเสียงที่ดีครับ

 

ราคาและการวางจำหน่าย

HUAWEI FreeClip วางจำหน่ายในประเทศไทยในราคา 6,490 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่สีดำ และสีม่วง สามารถสั่งจองได้แล้วตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ HUAWEI Expereince Store หรือที่ Shopee : https://bit.ly/3NVv5DT

พร้อมรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2567 ตามเงื่อนไขกรมสรรพากรครับ
 

 

บทความรีวิวโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 17/1/2567