รวม 10 รุ่นมือถือ 2023 น่าใช้ในราคาไม่เกิน 10,000-16,000 บาท อัปเดตราคาล่าสุด พ.ค. 2024

รวม 10 รุ่นมือถือ 2023 น่าใช้ในราคาไม่เกิน 10,000-16,000 บาท อัปเดตราคาล่าสุด พ.ค. 2024

 

ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเข้าสู่ปี 2024 มาจนเกือบจะครึ่งทางแล้ว แต่สมาร์ทโฟนรุ่นเก่าที่เปิดตัวในปี 2023 ก็ยังคงเป็นที่ต้องการอยู่ ด้วยราคาที่ถูกลง และสเปกที่ไม่หนีจากรุ่นใหม่มาก สำหรับวันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter ก็ได้รวบรวมมือถือ 10 มือถือรุ่นเก่าปี 2023 ที่ยังน่าซื้อน่าใช้ ในราคาไม่เกิน 10,000 บาท และ 16,000 บาท มาให้ได้ลองเลือกกัน อัปเดตล่าสุดเดือนพฤษภาคม 2567 มีรุ่นไหนบ้างไปดูกันเลยครับ

**ราคาของสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นเป็นราคามือหนึ่ง และอาจจะแตกต่างกันไปตามร้านที่จำหน่าย**

 

OPPO Reno10 5G : ประมาณ 9,000 บาท

OPPO Reno10 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่สเปกยังดีอยู่แม้จะเปิดตัวมา 1 ปีแล้วก็ตาม โดยมากับชิปเซ็ต Snapdragon 778G 5G  พร้อมด้วย RAM 12GB และ ROM 256G สามารถทำงาน และเล่นเกมทุกอย่างได้อย่างราบรื่น และยังมีชาร์จไว 67W SUPERVOOC ที่สามารถชาร์จจนเต็มได้ภายในเวลา 47 นาที ส่วนหน้าจอก็เป็นจอโค้งแบบ 3D Curved AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว แสดงผลคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้ดีไม่แพ้สมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งที่สายถ่ายรูปต้องชอบ คือมีกล้อง Telephoto Portrait Camera ความละเอียด 32MP ที่ซูมแบบ Optical ได้ 2 เท่า ทำให้ได้ระยะการถ่ายภาพบุคคลที่เหมาะที่สุด พร้อมรายละเอียดที่คมชัด ไม่มีเบลอ ซึ่งคุณภาพของรูปที่ได้ก็สวยไม่แพ้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ ในปีนี้เลย

สเปกเบื้องต้น

  • ชิปเซ็ต Dimensity 7050
  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตรารีเฟรช 120Hz
  • RAM 8GB + ROM 256GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 64MP + 32MP Telephoto + 8MP Ultrawide
  • กล้องหน้า 32MP
  • แบตเตอรี่ 5,000 mAh ชาร์จไว 67W

 

OPPO Reno10 Pro+ 5G : ประมาณ 15,500 บาท

หากต้องการรุ่นที่แรงขึ้นมาอีก OPPO Reno10 Pro+ 5G ก็น่าสนใจเช่นกัน สเปกโดยรวมจะคล้ายกับ Reno10 แต่อัปเกรดชิปเซ็ตให้แรงขึ้นเป็น Snapdragon 8+ Gen 1 และอัปเกรดกล้องซูมให้ซูมแบบ Optical ได้ 3 เท่า พร้อมชาร์จไว 100W ประสิทธิภาพโดยรวมถือว่าสู้กับสมาร์ทโฟนที่เปิดตัวปีนี้ได้สบาย ๆ ครับ

สเปกเบื้องต้น

  • ชิปเซ็ต Snapdragon 8+ Gen 1
  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.74 นิ้ว ความละเอียด 1.5K อัตรารีเฟรช 120Hz
  • RAM 12GB + ROM 256GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 50MP + 64MP Telephoto + 8MP Ultrawide
  • กล้องหน้า 32MP
  • แบตเตอรี่ 4,700 mAh ชาร์จไว 100W

 

OPPO A98 5G : ประมาณ 8,500 บาท

OPPO A98 5G ก็เป็นอีกรุ่นหนึ่งของ OPPO ที่ยังคงมีสเปกที่น่าสนใจในราคาที่ถูกกว่าเดิม สำหรับรุ่นนี้จะใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 695 ซึ่งสามารถเล่นเกมทั่ว ๆ ไปได้ และมีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.72 นิ้ว อัตรารีเฟรช 120Hz เหมาะกับการดูหนัง ฟังเพลง และมีระบบชาร์จไว 67W SUPERVOOC ซึ่งสามารถชาร์จจนเต็ม 100% ได้ภายในเวลาเพียง 44 นาที

สำหรับการถ่ายภาพ OPPO A98 5G ให้กล้องหน้าความละเอียดมากถึง 32MP ส่วนชุดกล้องหลังเป็นชุดกล้อง 3 ตัว ซึ่งมีกล้อง Microlens ที่เป็นเลนส์จุลทรรศน์ที่มีกำลังขยายสูงถึง 40x ช่วยให้เราได้เห็นรายละเอียดเล็ก ๆ ที่แม้แต่กล้อง Macro ก็ทำไม่ได้ และหาได้ยากในสมาร์ตโฟนปัจจุบัน

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของรุ่นนี้คือหน่วยความจำภายในขนาด 256GB และยังใส่การ์ด microSD ขยายความจุได้อีก 1TB เหมาะกับผู้ที่ต้องการมือถือไว้ใช้งานทั่วไปครับ

สเปกเบื้องต้น

  • ชิปเซ็ต Snapdragon 695
  • หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.72 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตรารีเฟรช 120Hz
  • RAM 8GB + ROM 256GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 64MP + 2MP Microscope + 2MP Depth
  • กล้องหน้า 32MP
  • แบตเตอรี่ 5,000 mAh ชาร์จไว 67W

 

Samsung Galaxy A54 5G : ประมาณ 10,000 บาท

Samsung Galaxy A54 5G ยังคงมีสเปกที่ค่อนข้างใหม่หากเทียบกับรุ่น A55 และมีดีไซน์ที่คล้ายกันมาก ประสิทธิภาพโดยรวมถือว่าไม่ทิ้งกันเท่าไหร่ จึงยังเป็นตัวเลือกที่ดีอยู่ในปีนี้

จุดเด่นของ Galaxy A54 5G คือฟีเจอร์ระดับไฮเอนด์ที่ยกมาจากจระกูลเรือธง ไม่ว่าจะเป็นกล้องที่มากับระบบโฟกัสแบบ All Pixel Autofocus ที่โฟกัสได้รวดเร็วแม่นยำเป็นพิเศษ, การบันทึกวิดีโอ 4K ได้ทั้งกล้องหลัง-กล้องหน้า และจอ Super AMOLED อัตรารีเฟรช 120Hz โดยรวมถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีครับ

สเปกเบื้องต้น

  • ชิปเซ็ต Exynos 1380
  • หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตรารีเฟรช 120Hz
  • RAM 8GB + ROM 256GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 50MP + 12MP Ultrawide + 2MP Macro
  • กล้องหน้า 32MP
  • แบตเตอรี่ 5,000 mAh ชาร์จไว 25W

 

vivo V29 5G : ประมาณ 8,500 บาท

vivo V29 5G มากับสเปก และพลังการถ่ายภาพโดดเด่นไม่แพ้ V30 ด้วยวงแหวนไฟ Aura Light Portrait 2.0 ที่ปรับอุณหภูมิของแสงไฟได้ พร้อมระบบกันสั่น OIS และเอฟเฟกต์โบเก้หลังละลาย ส่วนกล้องหน้าก็ให้ความละเอียดมาถึง 50MP แถมมีระบบโฟกัสอัตโนมัติ เรื่องพอร์ตเทรตเรียกได้ว่ากินขาด

นอกจากเรื่องกล้องแล้ว vivo V29 5G ก็ยังมีสเปกที่ดีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ตตัวใหม่อย่าง Snapdragon 778G, จอโค้งความละเอียด 1.5K, RAM 12GB และระบบชาร์จไวแบบ 80W FlashCharge ตอบโจทย์การใช้งานได้ลื่น ๆ แน่นอน

สเปกเบื้องต้น

  • ชิปเซ็ต Snapdragon 778 5G
  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตรารีเฟรช 120Hz
  • RAM 12GB + ROM 256GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 50MP + 8MP Ultrawide + 2MP Depth
  • กล้องหน้า 50MP
  • แบตเตอรี่ 4,600 mAh ชาร์จไว 80W

 

IQOO Z7 : ประมาณ 9,999 บาท

iQOO Z7 เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วก็จริง แต่ก็ยังไม่ตกรุ่นเพราะยังไม่มีการเปิดตัวรุ่น Z8 ในไทย สเปกโดยรวมเหมาะกับการเล่นเกมเป็นหลัก ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 782G, RAM เริ่มต้น 8GB, ความจุภายในเริ่มต้น 128GB และแบตเตอรีความจุ 5000mAh ที่รองรับชาร์จไว 120W ส่วนหน้าจอมีขนาด 6.64 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตรารีเฟรช 120Hz นอกจากนี้ยังมีช่องหูฟัง 3.5 มม., รองรับ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, และเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง

ด้านการถ่ายภาพ iQOO Z7 มากับกล้องหลังคู่ ซึ่งเป็นกล้องหลักความละเอียด 64MP (f/1.79) และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP (f/2.4) ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16MP (f/2.45)

สเปกเบื้องต้น

  • ชิปเซ็ต Snapdragon 782G
  • หน้าจอ LCD ขนาด 6.64 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตรารีเฟรช 120Hz
  • RAM 8GB + ROM 128GB
  • กล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด 64MP + 2MP Depth
  • กล้องหน้า 16MP
  • แบตเตอรี่ 5,000 mAh ชาร์จไว 120W

 

HONOR 90 5G : ประมาณ 11,500 บาท

จริง ๆ แล้ว HONOR 90 5G ยังไม่ถือว่าตกรุ่น เพราะยังไม่มีรุ่นที่ต่อยอดโดยตรงในประเทศไทย สเปกโดยรวมถือว่าแรง ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน โดยมากับชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 1, แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับชาร์จ 66W, หน้าจอ AMOLED ความละเอียดสูงถึง 1.5K พร้อมอัตรารีเฟรช 120Hz แต่จุดเด่นจริง ๆ ของรุ่นนี้คือกล้องหลัง 3 ตัว ที่มีกล้องหลักความละเอียดสูงถึง 200MP และกล้องหน้าความละเอียด 50MP ที่ถ่ายเซลฟี่ 4K ได้ โดยราคาปัจจุบันเริ่มต้นที่ประมาณ 11,000 บาทครับ

สเปกเบื้องต้น

  • ชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 1 Accelerated Edition
  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1.5K อัตรารีเฟรช 120Hz
  • RAM 12GB + ROM 256GB
  • กล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด 200MP + 12MP Ultrawide + 2MP Depth
  • กล้องหน้า 50MP
  • แบตเตอรี่ 5,000 mAh ชาร์จไว 66W

 

Nothing Pone (1) : ประมาณ 12,000 บาท

สำหรับใครที่ต้องการสมาร์ทโฟนดีไซน์สวยไม่เหมือนใคร Nothing Phone (1) ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งตอนนี้ราคาลดลงมาจากช่วงเปิดตัวค่อนข้างมาก เหลือประมาณ 12,000 บาท โดยมีฝาหลังแบบใสและแถบไฟ LED ที่สามารถแจ้งเตือนสถานะต่าง ๆ ของตัวเครื่อง และสามารถแสดงเอฟเฟกต์ล้อไปกับจังหวะริงโทนได้

ส่วนสเปกทั่วไปนั้น จะใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 778G+ ซึ่งทาง Qualcomm ปรับแต่งมาเป็นพิเศษเพื่อใช้กับ Nothing Phone (1), หน้าจอ OLED ความละเอียด FHD+ อัตรารีเฟรช 120Hz พร้อมกระจกกันรอย Gorilla Glass 5 ส่วนกล้องหลังมี 2 ตัวความละเอียด 50MP ทั้งคู่ โดยเป็นกล้องหลัก (wide) กับกล้องเสริม Ultrawide ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16MP

นอกจากฮาร์ดแวร์ที่น่าสนใจแล้ว ซอฟต์แวร์ภายในก็ดูดีเช่นกัน โดยเป็นระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่เน้นความคลีน แทบจะไม่มีการปรับแต่งใด ๆ และไม่มีแอปขยะติดมาให้หนักเครื่อง

สเปกเบื้องต้น

  • ชิปเซ็ต Snapdragon 778G+ 5G
  • หน้าจอ OLED ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตรารีเฟรช 120Hz
  • RAM 8GB + ROM 256GB
  • กล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด 50MP + 50MP Ultrawide
  • กล้องหน้า 16MP
  • แบตเตอรี่ 4,500 mAh ชาร์จไว 33W

 

OnePlus Nord CE3 Lite 5G : ประมาณ 9,990 บาท

OnePlus Nord CE 3 Lite 5G มีสเปกที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป โดยมีหน้าจอ LCD 6.72 นิ้ว FHD+ รองรับอัตรารีเฟรชภาพที่ 120Hz ใช้ชิประดับกลาง Qualcomm Snapdragon 695 คู่กับ RAM 8GB รองรับ Virtual RAM เพิ่มได้สุด 8GB + ROM UFS 2.2 ความจุขนาด 128GB / 256GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำเสริมแบบ microSD ได้มากสุด 1TB พร้อมแบตเตอรี่ที่อัปเกรดความจุเพิ่มเป็น 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 67W แถมยังมีระบบถนอมแบตขณะชาร์จ ช่วยยืดอายุแบตได้นานถึง 4 ปี

สำหรับการถ่ายภาพ เป็นชุดกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 108MP + กล้อง Macro 2MP + กล้อง Depth 2MP ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16MP

สเปกเบื้องต้น

  • ชิปเซ็ต Snapdragon 695 5G
  • หน้าจอ LCD ขนาด 6.72 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตรารีเฟรช 120Hz
  • RAM 8GB + ROM 128GB
  • กล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด 108MP + 2MP Macro + 2MP Depth
  • กล้องหน้า 16MP
  • แบตเตอรี่ 5,000 mAh ชาร์จไว 67W

 

TCL Stylus 5G : ประมาณ 9,999 บาท

จริง ๆ แล้ว TCL Stylus 5G เปิดตัวมาตังแต่ปี 2022 แต่ยังคงเป็นมือถือระดับกลางรุ่นเดียวที่มีปากกาในตัว ทำให้รุ่นนี้มีความน่าสนใจ สเปกโดยรวมจะเหมาะกับการใช้งานทั่วไป ด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 700, หน้าจอ FHD+ ขนาดใหญ่ 6.81 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี NXTVISION, ลำโพงเสียงแบบคู่, กล้องรวม 5 ตัว และความจุภายใน 256GB เหมาะมากกับการเป็นมือถือคู่ใจในการทำงาน ปัจจุบันเหลือราคาไม่เกิน 10,000 บาทครับ

สเปกเบื้องต้น

  • ชิปเซ็ต Dimensity 700
  • หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.81 นิ้ว ความละเอียด FHD+
  • RAM 6GB + ROM 256GB
  • กล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด 50MP + 5MP Ultrawide + 2MP Depth
  • กล้องหน้า 13MP
  • แบตเตอรี่ 4,000 mAh ชาร์จไว 18W

 

และทั้งหมดนี้คือ 10 มือถือรุ่นเก่าปี 2023 ที่ยังน่าซื้อน่าใช้ ในราคาไม่เกิน 10,000 บาท และ 16,000 บาท ประจำเดือนพฤษภาคม 2567 แต่ทั้งนี้ก็เป็นเพียงการแนะนำเพื่อเป็นแนวทางในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนเท่านั้น ไม่ได้ประเมิน หรือจัดอันดับว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใดดีกว่ากัน สุดท้ายแล้วสมาร์ทโฟนจะดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ใช้แต่ละคนครับ

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

 

วันที่ : 13/5/2567