iPhone (ไอโฟน) น่าใช้ 2024 สเปกยังดี ใช้งานลื่น ๆ ราคาคุ้มค่า อัปเดตล่าสุด ก.ค. 2567

iPhone (ไอโฟน) น่าใช้ 2024 สเปกยังดี ใช้งานลื่น ๆ ราคาคุ้มค่า อัปเดตล่าสุด ก.ค. 2567

 

iPhone เป็นสมาร์ทโฟนที่โลดแล่นอยู่ในวงการมานานนับทศวรรษ ด้วยระบบปฏิบัติการ iOS ที่มีความพิเศษเฉพาะตัว และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทำให้ iPhone มักจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของชาวไทยอยู่เสมอ จนถึงตอนนี้มนต์เสน่ห์ของมันก็ไม่เคยจางหายไปไหน และยังมีความต้องการอยู่ตลอด ไม่ว่าจะรุ่นเก่า หรือรุ่นใหม่ ซึ่งในโอกาสนี้ เราขอแนะนำ iPhone รุ่นเก่า-ใหม่ ที่ยังน่าใช้งานอยู่ในปัจจุบัน อัปเดตล่าสุดเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งหลายรุ่นก็มีราคาที่ถูกลงมาจากช่วงเปิดตัวเยอะทีเดียว มีรุ่นไหน ราคาเท่าไหร่บ้าง ไปดูกันเลยครับ

**ราคาของสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นอาจจะแตกต่างกันไปตามร้านที่จำหน่าย**
 

iPhone 12

ราคาเริ่มต้น 18,000 บาท

แม้จะเปิดตัวมา 3 ปีแล้ว แต่ดีไซน์และสเปกโดยรวมของ iPhone 12 ก็ยังถือว่าน่าใช้อยู่ แถมตอนนี้ราคายังเหลือแค่ 18,000 บาทเท่านั้น แพงกว่า iPhone SE 3 แค่นิดเดียว แต่ฟังก์ชั่นจัดเต็มกว่า ส่วนเรื่องการใช้งานก็ยังถือว่าลื่นอยู่ การถ่ายรูปหรือวิดีโอก็ทำได้ดีพอสมควร รวมแล้วถือว่าเป็นตัวเลือกเริ่มต้นที่ดีสำหรับคนที่ต้องการประหยัดครับ

สเปกเบื้องต้น

  • ชิปเซ็ต Apple A14 Bionic
  • หน้าจอ Super Retina XDR OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1170×2532 พิกเซล อัตรารีเฟรช 60Hz
  • RAM 4GB + ROM 64GB / 128GB / 256GB
  • กล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด 12MP + 12MP
  • กล้องหน้า 12MP
  • แบตเตอรี่ 2,815mAh ชาร์จไว 15W

 

iPhone 13

ราคาเริ่มต้น 21,000 บาท

iPhone 13 เป็นตัวเลือกที่ดูจะคุ้มที่สุดในตอนนี้หากเทียบกับราคา และประสิทธิภาพที่ได้ ณ ปัจจุบันนี้สามารถหาซื้อมือหนึ่งสวย ๆ ได้ในราคาไม่เกิน 21,000 บาท (สำหรับรุ่นความจุ 128GB) ส่วนสเปกโดยรวมก็ยังไม่เก่าเกินไป และไม่ได้ขี้เหร่เลย สามารถเล่นเกม และใช้งานในชีวิตประจำวันได้แบบลื่น ๆ แถมยังอัปเดตเป็น iOS เวอร์ชั่นใหม่ ๆ ได้ไกลพอสมควรอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม หากต้องการซื้อ iPhone 13 Pro หรือ Pro Max เรามองว่าเป็นทางเลือกที่ไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ เพราะสเปกส่วนที่อัปเกรดขึ้นมาก็ไม่ได้มากมายอะไร แถมราคายังแพงกว่า iPhone 14 รุ่นเริ่มต้น จึงแนะนำว่าขยับไปซื้อ iPhone 14 เลยดีกว่าครับ

สเปกเบื้องต้น

  • ชิปเซ็ต Apple A15 Bionic
  • หน้าจอ Super Retina XDR OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1170×2532 พิกเซล อัตรารีเฟรช 60Hz
  • RAM 4GB + ROM 128GB / 256GB / 512GB
  • กล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด 12MP + 12MP
  • กล้องหน้า 12MP
  • แบตเตอรี่ 3,240mAh ชาร์จไว 15W

 

iPhone 13 mini

ราคาเริ่มต้น 23,000 บาท

หากชอบจอเล็ก iPhone 13 mini เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยสเปกที่ไม่เก่าจนเกินไป และมีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดี ที่สำคัญคือเป็นไอโฟนตระกูล mini รุ่นสุดท้ายก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยรุ่น Plus ซึ่งในอนาคตเราอาจจะไม่ได้เห็น iPhone จอเล็กแบบนี้อีกแล้วก็เป็นได้ แต่รุ่นนี้จะหาซื้อค่อนข้างยากแล้ว และมีราคาแพงกว่า iPhone 13 รุ่นธรรมดานิดหน่อยครับ

สเปกเบื้องต้น

  • ชิปเซ็ต Apple A15 Bionic
  • หน้าจอ Super Retina XDR OLED ขนาด 5.4 นิ้ว ความละเอียด 1080×2340 พิกเซล อัตรารีเฟรช 60Hz
  • RAM 4GB + ROM 128GB / 256GB / 512GB
  • กล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด 12MP + 12MP
  • กล้องหน้า 12MP
  • แบตเตอรี่ 2,438mAh ชาร์จไว 15W

 

iPhone SE 3

ราคาเริ่มต้น 17,900 บาท

iPhone SE 3 เป็นไอโฟนที่ราคาศูนย์ถูกที่สุด และเป็นรุ่นเดียวที่ยังใช้ดีไซน์แบบคลาสสิคที่สแกนลายนิ้วมือได้อยู่ ถึงแม้ภายนอกจะดูเก่า  แต่ภายในแรงเทียบเท่า iPhone 13 เพราะใช้ชิปเซ็ต Apple A15 รุ่นเดียวกัน เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการใช้งานอะไรมาก และต้องการความสะดวกในการสแกนลายนิ้วมือครับ

สเปกเบื้องต้น

  • ชิปเซ็ต Apple A15 Bionic
  • หน้าจอ Retina IPS LCD ขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 750×1334 พิกเซล อัตรารีเฟรช 60Hz
  • RAM 4GB + ROM 64GB / 128GB / 256GB
  • กล้องหลัง 12MP
  • กล้องหน้า 7MP
  • แบตเตอรี่ 2,018mAh

 

iPhone 14

ราคาเริ่มต้น 24,700 บาท

ขยับมาอีกนิดจาก iPhone 13 ก็จะมี iPhone 14 เป็นตัวเลือก ซึ่งตอนนี้มีราคาลดลงจากช่วงเปิดตัวไปพอสมควร ในเรื่องของดีไซน์ และสเปกโดยรวม เรียกได้ว่าไม่ต่างจาก iPhone 13 มากนัก หลัก ๆ คือได้ลูกเล่นการถ่ายวิดีโอ Action Mode และระบบ Crash Detection หรือโหมดฉุกเฉินที่จะทำงานเมื่อเราประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งจะส่งข้อความแจ้งไปยังคนใกล้ชิดของเรา และกู้ภัยโดยอัตโนมัติ (แต่ต้องต้องค่าก่อน) โดยรวมแล้วนับว่าเป็นตัวเลือกที่ยังคุ้ม และประหยัดสำหรับตอนนี้ครับ

สเปกเบื้องต้น

  • ชิปเซ็ต Apple A15 Bionic
  • หน้าจอ Super Retina XDR OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1170×2532 พิกเซล อัตรารีเฟรช 60Hz
  • RAM 6GB + ROM 128GB / 256GB / 512GB
  • กล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด 12MP + 12MP
  • กล้องหน้า 12MP
  • แบตเตอรี่ 3,279 mAh ชาร์จไว 15W

 

iPhone 15

ราคาเริ่มต้น 32,900 บาท

ถ้าต้องการความสดใหม่ iPhone 15 รุ่นเริ่มต้นคือตัวเลือกที่ดีที่สุดก่อนที่ iPhone 16 จะเปิดตัวในเดือนกันยายน ความเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ ของรุ่นนี้คือพอร์ตชาร์จแบบ USB-C ทำให้ใช้สายชาร์จร่วมกับมือถือรุ่นอื่นได้สะดวกขึ้น ยิ่งถ้าเป็นคนที่ใช้ iPad หรือ Macbook รุ่นใหม่ ๆ อยู่แล้ว ก็สามารถใช้สายชาร์จและหัวชาร์จชุดเดียวกันได้เลย ไม่ต้องพกไปหลายเส้น นอกจากนี้ยังได้ใช้ฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่าง Dynamic Island แบบ iPhone 14 Pro และได้ชิปที่แรงขึ้นด้วย

สเปกเบื้องต้น

  • ชิปเซ็ต Apple A16 Bionic
  • หน้าจอ Super Retina XDR OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1179×2556 พิกเซล อัตรารีเฟรช 60Hz
  • RAM 6GB + ROM 128GB / 256GB / 512GB
  • กล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด 48MP + 12MP
  • กล้องหน้า 12MP
  • แบตเตอรี่ 3,349 mAh ชาร์จไว 15W

 

iPhone 15 Pro Max

ราคาเริ่มต้น 48,900 บาท

iPhone 15 Pro Max ไม่ได้ดีกว่ารุ่น Pro แค่ขนาดของจอที่ใหญ่กว่าเท่านั้น แต่สเปกกล้องยังดีกว่าด้วย โดยสามารถซูม Optical ได้ 5x ในขณะที่ Pro ซูมได้แค่ 3x เท่านั้น นอกจากนี้ ระบบกันสั่นก็เป็นระบบ 3D sensor-shift ที่ล้ำกว่ากันสั่น OIS ในรุ่น Pro ดังนั้นถ้าตั้งใจว่าจะซื้อตระกูล Pro อยู่แล้ว และมีงบเหลือ ก็ขยับไปเป็นตัวท็อปอย่าง Pro Max เลยดีกว่า เพราะจะได้สเปกกล้องที่ดีกว่าตัว Pro ธรรมดาพอสมควร

ทั้งนี้ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max จะได้รับอัปเดต Apple AI ใน iOS 18 ด้วย โดยจะมีแค่ 2 รุ่นนี้เท่านั้น ส่วน iPhone 15, iPhone 15 Plus และรุ่นที่ต่ำกว่าจะไม่ได้ ซึ่งก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max น่าซื้อในตอนนี้ครับ

สเปกเบื้องต้น

  • ชิปเซ็ต Apple A17 Pro
  • หน้าจอ Super Retina XDR OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1290×2796 พิกเซล อัตรารีเฟรช 120Hz
  • RAM 8GB + ROM 256GB / 512GB / 1TB
  • กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 48MP + 12MP +12MP + LiDAR
  • กล้องหน้า 12MP
  • แบตเตอรี่ 4,441 mAh ชาร์จไว 27W

 

และทั้งหมดนี้คือ iPhone ที่เราคัดมาแล้วว่าคุ้มค่าน่าใช้ในปี 2024 แต่ทั้งนี้ก็เป็นเพียงการแนะนำเพื่อเป็นแนวทางในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนเท่านั้น ไม่ได้ประเมิน หรือจัดอันดับว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใดดีกว่ากัน สุดท้ายแล้วสมาร์ทโฟนจะดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ใช้แต่ละคนครับ

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 15/7/2567