Motorola เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ Edge 50 Ultra ต่อยอดจากรุ่น Edge 50 Pro อัปเกรดรอบด้าน พร้อมฝาหลังไม่แท้ เปิดราคายุโรปเริ่มต้นราว 39,000 บาท
Motorola Edge 50 Ultra อัปเกรดจากรุ่น Pro ในหลายส่วน เริ่มจากชิปเซ็ตที่ขยับจาก Snapdragon 7 Gen 3 มาเป็นชิปเรือธง Snapdragon 8s Gen 3 เพิ่ม RAM เป็น 12GB / 16GB (LPDDR5X) และความจุภายใน 512GB / 1TB (UFS 4.0) ส่วนแบตเตอรี่มีขนาด 4,500 mAh รองรับระบบชาร์จไว 125W TurboPower และชาร์จไร้สาย 50W
ด้านการถ่ายภาพ Motorola Edge 50Ultra มีชุดกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 50MP เซนเซอร์ขนาด 1/1.3 นิ้ว รูรับแสง f/1.6 รองรับระบบออโต้โฟกัสทุกทิศทาง พร้อมระบบกันสั่น OIS, กล้องซูม Periscope ความละเอียด 64MP ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 72 มม. รองรับการซูม Optical 3x รูรับแสง f/2.4 และกล้อง Ultrawide ความละเอียด 50MP มุมรับภาพ 122 องศา รูรับแสง f/2.0 มีระบบออโต้โฟกัส และถ่ายภาพมาโครได้ รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K 60fps ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.9 พร้อมระบบออโต้โฟกัส
นอกจากเรื่องฮาร์ดแวร์ กล้องของ Motorola Edge 50 Ultra ยังมีมีระบบ AI เข้ามาช่วยการทำงานตามเทรนด์ โดย AI จะปรับค่าชัตเตอร์สปีดและระดับการกันสั่นให้เหมาะสมกับสถานการณ์โดยอัตโนมัติ พร้อมควบคุมระบบติดตามวัตถุของออโต้โฟกัส และยังมี Photo Enhancement Engine ช่วยดึงรายละเอียดของไฮไลต์, เงา, ความคมชัด, สีสัน และโบเก้
Motorola Edge 50 Ultra มีหน้าจอแสดงผลขอบโค้ง เป็นจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2,712 x 1,220 พิกเซล อัตราส่วน 20:9 รองรับสี 10-bit และ HDR10+ พร้อมอัตรารีเฟรช 144Hz ความสว่างสูงสุด 2500 nits
ตัวเครื่องของ Motorola Edge 50 Pro เป็นเฟรมอลูมีเนียม ด้านหน้าเป็รกระจกนิรภัย Gorilla Glass Victus เคลือบสารป้องกันรอยนิ้วมือ และมีคุณสมบัติกันน้ำ-กันฝุ่น IP68 แข็งแกร่งทนทานตามมาตรฐานมือถือเรือธง โดยรุ่นนี้ยังคงมากับสี Pantone เหมือนเช่นเคย คือสี Peach Fuzz แต่ไม่ได้มีแค่สีเครื่องอย่างเดียว หน้าจอแสดงผล และระบบกล้องก็ได้รับการรับรองมาตรฐานสีจาก Pantone ด้วยเช่นกัน
Motorola Edge 50 Ultra มีทั้งโมเดลแบบซิมเดี่ยว (ซิมการ์ดหรือ eSIM) และซิมคู่ (ซิมการ์ด+eSIM) พร้อมรองรับการเชื่อมต่อครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi 7 (802.11be), Bluetooth 5.4, Ultra Wide Band (UWB) และพอร์ตเชื่อมต่อ USB 3.2 ที่รองรับ DisplayPort 1.4
นอกจากนี้ ยังมีลำโพงสเตอริโอระบบเสียง Dolby Atmos และ Dolby Head Tracking สำหรับปรับทิศทางเสียงให้สมจริงเมื่อใช้หูฟังที่รองรับ
Motorola Edge 50 Ultra มีให้เลือก 3 สี ได้แก่สีดำ Forest Gray, สีแพนโทน Peach Fuzz และสี Nordic Wood ที่มีฝาหลังเป็นไม้จริง ไม่ใช่พลาสติกพิมพ์ลาย จะเริ่มวางจำหน่ายในโซนยุโรปบางประเทศในเร็ว ๆ นี้ โดยมีราคาเริ่มต้น 1,000 ยูโร หรือราว 39,000 บาท และจะวางจำหน่ายในโซนเอเชีย, อเมริกาใต้ และโอเชียเนียด้วย แต่ยังไม่มีกำหนดการที่ชัดเจนในขณะนี้
ที่มา : Motorola UK
วันที่ : 17/4/2567