มือถือชาร์จไม่เข้า แก้ปัญหาเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง ทำยังไงไปดู

มือถือชาร์จไม่เข้า แก้ปัญหาเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง ทำยังไงไปดู

 

ปัญหามือถือชาร์จไฟไม่เข้าเป็นปัญหาที่พบเจอได้ไม่บ่อยนัก แต่ถ้าเจอขึ้นมาเมื่อไหร่ก็เป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว เพราะถ้าแบตหมดเมื่อไหร่ก็บอกลาข้อมูลทุกอย่างในเครื่องได้เลย สำหรับใครที่เจอปัญหานี้อยู่ก็อย่าเพิ่งตกใจ เพราะเรามีวิธีแก้ไขเบื้องต้นมาฝากกัน ทำอย่างไรไปดูกันครับ
 

1. ปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่

วิธีสุดเบสิกในการแก้ปัญหาคือการปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่ หรือรีสตาร์ท เพราะการเปิดอุปกรณ์ไว้นาน ๆ อาจทำให้ระบบบางอย่างภายในเกิดความผิดพลาดขึ้นมาได้ การปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่จะเป็นการ kill process ทั้งหมดในเบื้องหลัง และทำให้ระบบเริ่มทำงานใหม่อีกครั้งในแบบที่มันควรจะเป็น 

 

2. ลองเข้า Safe Mode

หากรีสตาร์ทเครื่องแล้วมือถือยังไม่ยอมชาร์จ ให้ลองบูตเครื่องเข้า Safe Mode โดยโหมดนี้จะจำกัดการทำงานให้ใช้ได้แค่ซอฟต์แวร์ดั้งเดิมที่มาจากโรงงานเท่านั้น ทำให้แอปอื่น ๆ เข้ามาแทรกแซงการทำงานของระบบไม่ได้

สำหรับวิธีการเข้า Safe Mode บนสมาร์ทโฟน Android จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและยี่ห้อ แต่ส่วนใหญ่จะมีวิธีดังนี้

  1. กดปุ่มเปิด/ปิดเครื่องค้างไว้จนมีเมนูเด้งขึ้นมา
  2. แตะปุ่ม เปิดเครื่อง ค้างไว้จนกว่าจะมีตัวเลือก Safe Mode ปรากฏขึ้น
  3. แตะปุ่ม Safe Mode เครื่องจะทำการรีบูตเข้า Safe Mode ทันที

*หากไม่มีเมนู Safe Mode ปรากฏขึ้น ลองกดปุ่มรีสตาร์ทค้างไว้แทน

อีกวิธีหนึ่งคือการปิดเครื่อง แล้วกดปุ่มล็อกหน้าจอ+ปุ่มเพิ่มเสียงค้างไว้จนกว่าจะมีตัวเลือก Safe Mode ขึ้นมา

หากเข้า Safe Mode แล้วชาร์จมือถือได้ หมายความว่าตัวการคือแอปตัวใดตัวหนึ่งที่เราโหลดมาลงในเครื่อง ให้เรารีตาร์ทเครื่องใหม่ด้วยวิธีการปกติ แล้วลบแอปล่าสุดที่เราเพิ่งจะติดตั้งลงเครื่องไป และลองชาร์จดูอีกครั้งครับ

 

3. ลองเปลี่ยนสายชาร์จ/อแดปเตอร์

หากเข้า Safe Mode แล้วยังชาร์จไม่เข้า ลบแอปแล้วก็ไม่หาย เป็นไปได้ว่าปัญหาอาจจะไม่ได้อยู่ที่เครื่อง แต่อยู่ที่อุปกรณ์ชาร์จอย่างสาย หรืออแดปเตอร์ ลองตรวจสอบดูว่าสายต่าง ๆ เสียบแน่นดีหรือไม่ หรือลองสลับสาย/อแดปเตอร์ชาร์จดูครับ

อีกวิธีหนึ่งในการเช็คง่าย ๆ คือการชาร์จชาร์จมือถือกับช่อง USB บนคอมพิวเตอร์ หากชาร์จเข้าแสดงว่าปัญหาน่าจะอยู่ที่สายชาร์จหรืออแดปเตอร์แล้วครับ

 

4. อาจเป็นเพราะบั๊กของซอฟต์แวร์

บางครั้งเราอาจจะเจออาการแปลก ๆ ที่มือถือชาร์จเข้าแต่ระบบบอกว่าไม่เข้า หรือชาร์จยังไงก็ไม่เต็มแต่ระบบบอกว่ากำลังชาร์จอยู่ ปัญหานี้อาจเกิดจากบั๊กของซอฟต์แวร์ระบบ

หากเจอปัญหาแบบนี้ แนะนำให้ดาวน์โหลดแอป Ampere มาใช้ แอปนี้จะแสดงสถานะการชาร์จและคายประจุของแบตเตอรีให้ดูแบบ real time วิธีดูง่าย ๆ คือหากตัวเลขเป็นสีส้มแสดงว่ามือถือไม่ได้ชาร์จ แต่ถ้าเป็นสีเขียวแปลว่ากำลังชาร์จอยู่ครับ

 

5. ทำความสะอาดช่องชาร์จ

ปัญหาเส้นผมบังภูเขาของการชาร์จมือถือไม่เข้าคือพอร์ตชาร์จที่สกปรกเกินไป ซึ่งอาจไปรบกวนขั้วสัมผัสของสายชาร์จและพอร์ต หรือทำให้เสียบสายได้ไม่สุด ลองตรวจสอบพอร์ตชาร์จดูว่ามีสิ่งสกปรกอะไรอยู่หรือไม่ แล้วค่อย ๆ ทำความสะอาดอย่างเบามือด้วยไม้จิ้มฟันและก้านสำลีเล็ก ๆ โดยไม่ต้องใช้น้ำหรือน้ำยาใด ๆ ครับ

 

6. มือถือเพิ่งโดนน้ำมาหรือเปล่า?

ถึงจะเป็นมือถือที่สเปกบอกว่ากันน้ำก็มีสิทธิ์น้ำเข้าได้เหมือนกัน หากมือถือของคุณเพิ่งจะเปียกมาแล้วชาร์จไม่เข้า ก็อาจจะเป็นเพราะสาเหตุนี้

จริง ๆ แล้วหากมือถือเพิ่งจะเปียกหนักมา ไม่ควรเสียบชาร์จทันทีเพราะอาจทำให้ตัวเครื่องภายในเสียหายอย่างถาวรได้ ควรทิ้งไว้ในที่ที่มีการระบายอากาศดี ๆ สัก 1 -2 วันเพื่อให้ชิ้นส่วนภายในแห้งสนิท แล้วจึงค่อยชาร์จครับ

 

7. ส่งเคลม/ซ่อม

หากลองทำทุกวิธีแล้วยังไม่ได้ผล งานนี้คงต้องถึงมือช่างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากตัวเครื่องยังมีประกันอยู่ก็เข้าศูนย์ได้เลย หรือถ้าหมดประกันแล้วจะลองใช้บริการร้านซ่อมข้างนอกก็ได้เช่นกัน แต่ต้องเลือกร้านที่มีความน่าเชื่อถือหน่อยครับ

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 11/7/2566