รีวิว vivo Y36 5G รีวิว vivo Y36 5G สมาร์ตโฟน 5G กล้องพอร์ตเทรตรุ่นใหม่ พร้อมชาร์จไว 44W และเมมจุใจ บนดีไซน์ Dual Ring บางเฉียบเรียบหรู ในราคาแค่หลักพัน
 

หากใครยังจำกันได้ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา vivo เพิ่งจะเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นคุ้มค่าราคาย่อมเยาตัวใหม่อย่าง vivo Y36 ไปหมาด ๆ และล่าสุดก็ได้นำพี่น้องท้องเดียวกันที่ถูกอัปเกรดให้สามารถใช้งานเครือข่าย 5G ได้มาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในนามว่า vivo Y36 5G ซึ่งก็มาเจาะกลุ่มผู้ที่ต้องการสมาร์ตโฟนดี ๆ ในราคาที่เอื้อมถึงได้ง่ายเช่นเดียวกัน และเราก็ได้นำมารีวิวให้ชมกันแล้วในวันนี้

vivo Y36 5G นั้นมีหน้าตา และจุดเด่นโดยรวมที่ถอดแบบมาจาก vivo Y36 4G แทบทุกกระเบียดนิ้ว แต่ถูกยกระดับการเชื่อมต่อให้เป็น 5G โดยดีไซน์ของ vivo Y36 5G นั้นมาในแนวบางเฉียบเรียบหรู พร้อมกรอบด้านข้างแบบแบนที่แฝงด้วยความโค้งมนเพื่อให้สามารถจับถือได้ถนัดมือ ซึ่งตัวเครื่องนั้นบางเฉียบเพียง 7.98 มิลลิเมตร (หรือ 8.07 มิลลิเมตร สำหรับสี Crystal Green) อีกทั้งยังมีคุณสมบัติของการทนน้ำ-ทนฝุ่นในระดับ IP54 อีกต่างหาก

ด้านกล้องถ่ายภาพของ vivo Y36 5G เป็นกล้องคู่ที่ใช้ดีไซน์แบบ Dual Ring พร้อมวงแหวนสีรุ้ง (Rainbow Ring) รอบเลนส์กล้องที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่น โดยยังคงเน้นไปที่ความสามารถด้านการถ่ายภาพบุคคล หรือพอร์ตเทรต ด้วยลูกเล่นที่มีมากมายไม่ว่าจะเป็นการปรับดวงไฟพื้นหลังด้วย Bokeh Flare Portrait, เพิ่มเอฟเฟกต์แสงจำลองด้วย Portrait Light Effects และเอฟเฟกต์ซ้อนภาพแบบ Multiple Exposure เพิ่มความแปลกใหม่ไม่จำเจ อีกทั้งกล้องหน้ายังมีแฟลชจากหน้าจอ หรือ Aura Screen Light ให้ใช้งาน ทำให้ถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของคุณสมบัติทั่วไป vivo Y36 5G ก็จัดว่าไม่น้อยหน้ารุ่นอื่นในระดับราคาเดียวกัน โดยมากับชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 6020 ที่รองรับ 5G และมีประสิทธิภาพที่ดี, หน้าจอแสดงผล FHD+ แบบเจาะรูตรงกลาง (Punch Hole) ขนาดใหญ่ 6.64 นิ้ว, หน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB ผสานฟีเจอร์ Extended RAM 3.0 ที่ช่วยเพิ่ม Virtual RAM ได้อีกสูงสุด 8GB, หน่วยความจำ ROM ขนาด 256GB, แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จไว 44W FlashCharge ซึ่งทั้งหมดนี้ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 13 (บนพื้นฐานของ Android 13) เวอร์ชันใหม่ล่าสุด

เห็นความสามารถข้างต้นแล้วก็เรียกได้ว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับ vivo Y36 5G รุ่นนี้ ส่วนรายละเอียดทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันต่อในรีวิว vivo Y36 5G ได้เลยครับ


แกะกล่อง พร้อมสำรวจอุปกรณ์ด้านใน และดีไซน์ของ vivo Y36 5G

vivo Y36 5G มาในกล่องสีขาวสะอาดตา โดยมีชื่อรุ่นพิมพ์ลายนูนสะท้อนแสงเอาไว้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ vivo มานาน

ส่วนอุปกรณ์ภายในทั้งหมดจะประกอบไปด้วย

  • ตัวเครื่อง vivo Y36 5G
  • ฟิล์มกันรอย (ติดตั้งมาให้จากโรงงาน)
  • เข็มถอดถาดซิมการ์ด
  • คู่มือการใช้งาน
  • ใบรับประกัน
  • เคสใส
  • สาย USB-C
  • อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่แบบ 44W FlashCharge

vivo Y36 5G มีตัวเครื่องขนาดพอดีมือ และมีน้ำหนักค่อนข้างเบา จับถือสบาย ขอบของฝาหลังมีความโค้งมนเล็กน้อย (ดีไซน์ 2.5D Curved) ช่วยลดความคมขอบเครื่องด้านข้างช่วยให้ถือสบายมือขึ้น ตัวเครื่องเคลือบพื้นผิวแบบคอมโพสิต โดยสีเด่นของรุ่นนี้คือสีเขียว Crystal Green ซึ่งมีพื้นผิวสะท้อนแสงแวววาว ให้ความรู้สึกนุ่มนวล มีชีวิตชีวา และอีกสีหนึ่งคือสีดำ Mystic Black ที่ให้ความรู้สึกเข้มขรึม ลึกลับน่าค้นหา

ดีไซน์การวางเลนส์กล้องหลังของ vivo Y36 5G จะเป็นดีไซน์แบบ Dual Ring ที่เรียงตัวในแนวตั้ง บนฐานสี่เหลี่ยมที่มีกรอบแฟนตาซีเล่นแสงสีรุ้ง (Rainbow Ring) ที่ช่วยเพิ่มความสดใสให้กับเลนส์กล้อง โดยวงด้านบนเป็นกล้องหลักความละเอียด 50MP ส่วนวงด้านล่างเป็นกล้อง Bokeh ความละเอียด 2MP และไฟแฟลชแบบ LED อยู่ 1 ดวง

ส่วนของตัวเครื่องด้านหน้า vivo Y36 5G จะมีหน้าจอแสดงผลแบบเจาะรูตรงกลาง (Punch Hole) ขนาด 6.64 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ โดยเป็นจอแบบ IPS LCD ที่รองรับอัตราการรีเฟรชมาตรฐานที่ 60Hz รวมทั้งมีความสว่างสูงสุดที่ 650 nits ซึ่งสู้แสงแดดได้ดีในระดับหนึ่ง และมีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 91% ส่วนด้านบนเป็นกล้องหน้าแบบเจาะรูฝังใต้จอ ความละเอียด 16MP

ปุ่มล็อกหน้าจอกับปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power จะอยู่ที่ด้านขวา โดยเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือจะอยู่บนปุ่ม Power นั่นเอง ส่วนด้านซ้ายนั้นเรียบสนิท ไม่มีโมดูลใด ๆ ติดตั้งอยู่

ขอบด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน และช่องใส่ถาดซิมการ์ด ในขณะที่ขอบด้านล่างมีพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนตัวหลัก, ลำโพงเสียง และพอร์ต USB-C ซึ่งจะเห็นว่าลำโพงเสียงนั้นจะเป็นแบบเดี่ยว (Mono) ซึ่งเสียงจะออกมาจากช่องลำโพงด้านล่างเท่านั้น

ส่วนถาดใส่ซิมเป็นแบบ Dual Nano SIM ซึ่งไม่รองรับการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD หรือแบบอื่น ๆ

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับการถ่ายภาพ และวิดีโอ

กล้องหลังของ vivo Y36 5G นั้นเป็นกล้องคู่ (Dual Camera) ซึ่งประกอบด้วย

– กล้อง Main ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 0.64 ไมครอน, รูรับแสงขนาด f1.8, ทางยาวโฟกัส 26 มิลลิเมตร (มุมรับภาพ 76°) และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF
– กล้อง
Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4

ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดอยู่ที่ 16MP พร้อมรูรับแสงขนาด f2.45

จุดเด่นของกล้อง vivo Y36 5G คือการถ่ายรูปแนวพอร์ตเทรต ซึ่งมีเอฟเฟกต์ให้ใช้งานมากมาย และถ่ายได้ทั้งกลางวัน-กลางคืน โดยฟีเจอร์ที่น่าสนใจมีดังนี้ :

Portrait Light Effect

ในโหมดนี้จะเป็นการจำลองแสงในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงเอฟเฟกต์ดูดสีฉากหลัง ช่วยเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับการถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Bokeh Flare Portrait

เอฟเฟกต์ดวงไฟโบเก้ในฉากหลังให้มีรูปทรงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจ, ดาว, ผีเสื้อ หรือดอกซากุระ นับว่าเป็นจุดเด่นของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้เลยก็ว่าได้

Multi-Style Portrait

นอกจากเอฟเฟกต์แสง และไฟโบเก้แล้ว ยังปรับเปลี่ยนสไตล์ของรูปถ่ายให้มีอารมณ์แตกต่างกันไปอีกด้วย โดยโหมดนี้จะเป็นคนละส่วนกับฟิลเตอร์

Aura Screen Light

เพิ่มความสว่างให้กับใบหน้าเวลาเซลฟี่ด้วยไฟแฟลชบนหน้าจอ หรือ Aura Screen Light ทำให้เราสามารถเซลฟี่ได้ทุกที่ทุกเวลาแม้มีแสงน้อย

Multiple Exposure

ลูกเล่นการถ่ายรูปแบบซ้อนภาพ หรือรับแสงสองเท่า ช่วยเพิ่มความแปลกใหม่ไม่จำเจ สามารถเลือกภาพซ้อนที่ระบบมีให้ หรือจะเลือกภาพถ่ายในเครื่องก็ได้

ส่วนโหมดอื่น ๆ จะเป็นโหมดการถ่ายภาพทั่วไป เช่น โหมดกลางคืน, โหมดโปร, โหมดพาโนรามา หรือโหมดความละเอียด 50MP เป็นต้น

 

สำหรับการถ่ายวิดีโอ กล้องหลังถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 1080P FHD กับเฟรมเรตที่ 30/60 fps พร้อมระบบกันสั่น ส่วนกล้องหน้าก็สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 1080P FHD เช่นเดียวกัน เพียงแต่มีเฟรมเรตสูงสุดเพียงแค่ 30 fps เท่านั้น

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ vivo Y36 5G

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดพอร์ตเทรต

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดการรับแสงสองเท่า (Double Exposure)

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดอัตโนมัติ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดกลางคืน

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ vivo Y36 5G

 

ซอฟต์แวร์ และฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

vivo Y36 5G ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 13 ที่พัฒนาอยู่บนพื้นฐานของ Android 13 พร้อมประมวลผลด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 6020 ความเร็ว 2.2 GHz

UI/UX มีดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายตามสไตล์ของ vivo ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้หลายส่วนไม่ว่าจะเป็นฟอนต์, ขนาดตัวอักษร, ภาพพื้นหลัง, ธีม, วิดเจ็ต และคุณลักษณะปลีกย่อยอื่น ๆ อย่างโหมดถนอมสายตา, โหมดมืด และแอปจัดการทรัพยากรระบบ เป็นต้น

ในส่วนของระบบทัชสกรีน vivo Y36 5G มีการตอบสนองที่รวดเร็วแม่นยำ และลื่นไหล ถึงแม้ว่ารุ่นนี้จะปรับอัตรารีเฟรชของหน้าจอไม่ได้ โดยจะล็อกไว้ที่ 60Hz ซึ่งเป็นค่ามาตรฐาน แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานเท่าไหร่ครับ

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือการโคลนแอป ซึ่งจะทำให้ใช้งานโซเชียลมีเดีย 2 บัญชีในเครื่องเดียวได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแยกบัญชีทำงานกับบัญชีส่วนตัวออกจากกันโดยไม่ต้องพกมือถือ 2 เครื่อง และในเวอร์ชันนี้ยังโคลนแอปชอปปิงอย่าง Shopee กับ LAZADA ได้อีกด้วย

และสามารถตรวจสอบดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ได้จากแอปสภาพอากาศที่ติดมากับระบบ ซึ่งอัปเดตตัวเลขแบบ Real Time เช็คฝุ่น PM 2.5 ประจำวันได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มเติม

ประสิทธิภาพสำหรับการทำงานทั่วไป และการเล่นเกม

vivo Y36 5G ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Dimensity 6020 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เป็นชิปที่ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมระดับ 7 นาโนเมตรที่มากับหน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G57 MC2 และมีโมเด็ม 5G ในตัว โดยทำงานร่วมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB ที่สามารถเพิ่ม Virtual RAM ได้อีก 8GB จากระบบ Extended RAM 3.0 จึงมี RAM รวมสูงสุด 16GB ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้การใช้งานได้ลื่นไหลไม่สะดุด โดยตามข้อมูลระบุว่าสามารถเปิดแอปพลิเคชันเบื้องหลังได้พร้อมกันสูงสุดถึง 25 แอปเลยทีเดียว

ส่วนหน่วยความจำภายใน (ROM) นั้นมีขนาดอยู่ที่ 256GB ซึ่งถือว่าค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวสำหรับสมาร์ตโฟนในปัจจุบัน เก็บรูป เก็บไฟล์ ลงแอปได้จุใจแน่นอน อย่างไรก็แล้วแต่ vivo Y36 5G รุ่นนี้ไม่สามารถใส่การ์ด microSD หรือเพิ่มหน่วยความจำเสริมแบบอื่น ๆ ได้

สำหรับระบบเสียงของ vivo Y36 5G แม้จะเป็นลำโพงเดี่ยว (Mono) ซึ่งเสียงจะออกที่ช่องลำโพงด้านล่างแค่ทางเดียว แต่ก็มีระบบ Audio Booster ที่ช่วยเพิ่มเสียงให้ดังขึ้นได้สูงสุด 200%

นอกจากนี้ในหน้าการตั้งค่าเสียง และการสั่น ยังมีตัวเลือกความละเอียดเสียงสูงพิเศษที่จะช่วยปรับเสียงคุณภาพต่ำในไฟล์วิดีโอ หรือเพลงให้ดีขึ้นโดยอัตโนมัติ และมีฟีเจอร์ Super Audio สำหรับปรับโปรไฟล์เสียงให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละสถานการณ์ด้วย

ในการเล่นเกม vivo Y36 5G ก็ทำได้ดีทีเดียว โดยสามารถเล่นเกมทั่วไปได้อย่างราบรื่น บนการตั้งค่ากราฟิกระดับกลาง ๆ โดยมีเฟรมเรตคงที่ตลอดทั้งเกม และตอบสนองต่อการควบคุมได้อย่างแม่นยำ ฉับไว ไม่มีหงุดหงิด โดยที่ตัวเครื่องแทบจะไม่ร้อนเลย นับว่าเป็นสมาร์ตโฟนอีกรุ่นหนึ่งที่เอามาใช้เล่นเกมได้ดีครับ

ส่วนการทดสอบประสิทธิภาพ (Benchmark) และพารามิเตอร์ต่าง ๆ ของ vivo Y36 5G จะได้ผลลัพธ์ดังนี้

ผลทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานโดยรวมจากแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ได้คะแนนรวมอยู่ที่ 430,610 คะแนน

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพของการประมวลผลด้วยแอปพลิเคชัน Geekbench 6 ก็พบว่าได้คะแนนการประมวลผลแบบ Single-Core ที่ 729 คะแนน และได้คะแนนการประมวลผลแบบ Multi-Core ที่ 1,959 คะแนน

รองรับการสัมผัสหน้าจอพร้อมกันอย่างน้อย 10 จุด พร้อมเซนเซอร์ในเครื่องประกอบด้วย Accelerometer Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope, Sound Sensor, Magnetic Sensor และ Orientation Sensor

รองรับมาตรฐานความปลอดภัย Google WideVine CDM ระดับ L1 จึงสามารถสตรีมมิ่งวิดีโอความละเอียดสูงได้

 

ทดสอบการจับสัญญาณ GPS ภาคพื้นดิน จับสัญญาณได้ 35 ดวง จาก 63 ดวง

แบตเตอรี่ และระบบชาร์จไว 44W FlashCharge

vivo Y36 5G มีแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh ซึ่งถือว่าไม่มากไม่น้อยสำหรับสมาร์ตโฟนในยุคปัจจุบัน ด้วยชิปเซ็ต และระบบภายในที่เป็นรุ่นใหม่ทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวันแบบสบาย ๆ ส่วนระบบชาร์จนั้นเป็นแบบ 44W FlashCharge ซึ่งมีสายชาร์จ และอแดปเตอร์แถมมาให้พร้อมใช้งานโดยไม่ต้องเสียเงินซื้อเพิ่มเติม ส่วนการชาร์จจนเต็ม 100% นั้นจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งก็ถือว่ารวดเร็วพอสมควร

 

ราคา, โปรโมชัน และการวางจำหน่าย

สำหรับท่านใดที่รอลุ้นราคาอยู่ ล่าสุดวันนี้ (6 กรกฎาคม 2566) ทาง vivo (ประเทศไทย) ก็ได้ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยของ vivo Y36 5G ออกมาแล้ว โดยมีราคาอยู่ที่ 8,999 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ใครก็เอื้อมถึงได้ง่าย ท่านที่สนใจสามารถหาซื้อได้ที่ vivo Brandshop ทุกสาขา, ช่องทางออนไลน์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

พิเศษช่วงนี้ สำหรับท่านที่ซื้อ vivo Y36 5G รับฟรีของสมนาคุณรวมมูลค่า 5,498 บาท ได้แก่

1. เคส vivo Y36 5G จำนวน 1 ชิ้น มูลค่า 499 บาท
2. บัตร E-VIP Card (ประกันตัวเครื่อง 2 ปี กับประกันหน้าจอแตก 1 ปีแรก จำนวน 1 ครั้ง) มูลค่า 4,999 บาท

และอาจจะต้องรีบตัดสินใจสักนิด เพราะของสมนาคุณข้างต้นนี้มีจำนวนจำกัด โปรดตรวจสอบของสมนาคุณที่จุดขายที่ท่านซื้ออีกครั้ง

 

สรุปผลการทดสอบของ vivo Y36 5G

หลังจากที่ทางทีมงานมีโอกาสได้ใช้งาน vivo Y36 5G เครื่องนี้มาพักหนึ่ง ก็สามารถบอกได้ว่านี่คือสมาร์ตโฟน 5G ระดับเริ่มต้นที่น่าใช้อีกรุ่นในตอนนี้ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชอบการถ่ายรูปแนวพอร์ตเทรตเป็นชีวิตจิตใจ

ในส่วนของดีไซน์ vivo Y36 5G ยังคงมีดีไซน์เหมือนกับรุ่น 4G แต่จะเปลี่ยนพื้นผิวฝาหลังใหม่ โดยสีเขียว Crystal Green จะเป็นผิวมันเงาสะท้อนแสงแบบคริสตัล และมีการสะท้อนแสงแบบไล่เฉดบนฐานกล้อง ส่วนสีดำ Mystic Black จะเป็นผิวด้านซ่อนการไล่เฉดอ่อน-เข้ม ดูเข้มขรึมจริงจังมากขึ้น ตัวเครื่องบางเฉียบ และมีน้ำหนักค่อนข้างเบา ถือใช้งานสะดวก และยังเพิ่มความโค้งมนบริเวณขอบเพื่อให้จับสบายมือยิ่งขึ้น (เรียกว่าดีไซน์ขอบโค้ง 2.5D) โดยรวมแล้วเป็นสมาร์ตโฟนอีกรุ่นหนึ่งที่สวยหรูดูดีน่าสัมผัส

หน้าจอแสดงผลของ vivo Y36 5G เป็นจอแบบ IPS LCD ที่ถูกเจาะรูตรงกลาง (Punch Hole) ขนาด 6.64 นิ้ว มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 91% จัดว่าใหญ่กำลังดี เหมาะกับการดูหนัง เล่นเกม แต่ก็ไม่ใหญ่จนถือลำบาก การแสดงผลคมชัด และมีสีสันสดใส สู้แสงได้ดีพอสมควร แต่จะมีอัตราการรีเฟรชภาพที่ 60Hz เท่านั้น อย่างไรก็ดีเรามองว่าไม่ใช่ฟีเจอร์ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานมากมายอะไร เพราะ 60Hz ก็ถือว่าลื่นดีแล้ว และส่วนใหญ่เราก็ไม่ค่อยได้เจอคอนเทนต์ที่มีเฟรมเรตสูงกว่า 60Hz กันอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน

ด้านประสิทธิภาพการทำงานทั่วไป vivo Y36 5G สามารถรับมือกับการใช้งานทุกประเภทได้อย่างลื่นไหล ด้วยพลังของชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 6020 ซึ่งถือว่าค่อนข้างใหม่ และ RAM ที่เพิ่มขนาดได้รวมสูงสุดถึง 16GB จึงเล่นเกมทั่วไปได้สบาย ๆ ส่วนหน่วยความจำภายในที่ให้มา 256GB ก็มากพอที่จะลงแอป และเกมได้อีกหลายเกม นับว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปโดยไม่จำเป็นต้องใช้การ์ด microSD เว้นแต่ว่าจะมีรูปถ่าย หรือคลิปวิดีโอเยอะเป็นพิเศษ

 

การถ่ายรูปโดยทั่วไปของ vivo Y36 5G จัดว่าดีเลยทีเดียวสำหรับสมาร์ตโฟนระดับกลาง ทั้งการวัดแสง, สี และ HDR อยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดย AI จะปรับค่าต่าง ๆ ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติ แต่ด้วยข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์ การประมวลผลต่าง ๆ อาจจะไม่รวดเร็วทันใจแบบสมาร์ตโฟนเรือธง แนะนำว่าให้เล็งดี ๆ ก่อนถ่ายเพื่อรอให้ AI ปรับค่ากล้อง และจับโฟกัสชัด ๆ จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า นอกจากนี้กล้องของ vivo Y36 5G ยังไม่มีเลนส์ Ultra Wide หรือ Macro ทำให้มีตัวเลือกในการถ่ายภาพค่อนข้างจำกัดอยู่บ้าง

การถ่ายภาพพอร์ตเทรตของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ ค่อนข้างจะเซอร์ไพรส์ทีมงานอยู่พอสมควร เพราะทำได้ดีมากจริง ๆ นอกจากจะมีลูกเล่นให้ใช้เยอะแล้ว ยังสามารถชดเชยแสง และปรับสมดุลแสงสีขาวแบบอัตโนมัติได้อย่างแม่นยำ แม้จะถ่ายภายใต้บรรยากาศที่มีไฟสีส้ม แต่ก็ยังปรับสีให้เป็นกลางโดยไม่ต้องตั้งค่าใด ๆ

การถ่ายพอร์ตเทรตโดยใช้แฟลชช่วยของ vivo Y36 5G จะไม่เหมือนกับสมาร์ตโฟนทั่วไปที่ให้แสงแข็ง ๆ บนตัวแบบ และทำให้ฉากหลังมืด แต่จะยิงแฟลชออกมาแค่แวบเดียวสั้น ๆ ทำให้ตัวแบบสว่างกำลังดี และไม่ทำให้ฉากหลังมืด แก้ปัญหาเวลาถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้เป็นอย่างดี

แฟลชหน้าจอ Aura Screen Light สำหรับกล้องหน้าก็เป็นจุดเด่น อีกอย่างหนึ่งของ vivo Y36 5G เช่นกัน เพราะแฟลชแบบนี้จะให้แสงที่นุ่มนวลกว่าแฟลชปกติ ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ในที่มืดดูดีขึ้น

ส่วนโหมดกลางคืนถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างน่าพอใจ สามารถเกลี่ยแสง และดึงรายละเอียดในจุดที่มืดออกมาได้พอสมควร แต่ยังมีคลื่นรบกวน (Noise) อยู่บ้าง และบางครั้งรายละเอียดของภาพจะไม่ค่อยคม แต่ก็มีสไตล์ของรูปภาพที่หลากหลายเข้ามาชดเชยในส่วนนี้ได้

ด้านการจัดการพลังงาน vivo Y36 5G มีแบตเตอรี่ที่อึดพอจะใช้งานข้ามวันได้สบาย ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาแบตเตอรี่สำรอง ส่วนการชาร์จก็ถือว่ารวดเร็วด้วยเทคโนโลยี 44W FlashCharge ชาร์จไม่ถึงชั่วโมงก็เต็มแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลแม้แต่น้อย

 

จากทั้งหมดที่กล่าวมาก็สรุปได้ว่า vivo Y36 5G นั้นเป็นสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นในงบไม่เกิน 10,000 บาท ที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการใช้ 5G พร้อมความสามารถด้านอื่น ๆ ที่ครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องการสมาร์ตโฟนที่มีจุดเด่นด้านการถ่ายภาพพอร์ตเทรต ซึ่งก็นับว่าลงตัวสำหรับการใช้งานในยุคนี้ เพราะไม่ว่าใครก็ชอบถ่ายพอร์ตเทรตแล้วแชร์ให้เพื่อน ๆ ดูกันทั้งนั้น อีกทั้งยังตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการสมาร์ตโฟนที่ประมวลผลได้รวดเร็ว, แบตเตอรี่ใหญ่ชาร์จไว, เมมเยอะ และมีตัวเครื่องดีไซน์สวยหรูด้วยเช่นกัน สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม แล้วพบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

สรุปจุดเด่น และคุณสมบัติของ vivo Y36 5G


– ดีไซน์ตัวเครื่องที่เรียบหรูทันสมัย จับถือได้ถนัดมือ พร้อมความบางเฉียบเพียง
7.98 มิลลิเมตร
– ตัวเครื่องผลิตจาก
2.5D Plastic
– พื้นผิวตัวเครื่องใช้การ
เคลือบแบบคอมโพสิต และมีคุณสมบัติของการป้องกันรอยขีดข่วน
– ดีไซน์กล้องหลักด้านหลังแบบ
Dual Ring พร้อมวงแหวนสีรุ้ง (Rainbow Ring) รอบเลนส์กล้อง
– ตัวเครื่องมีคุณสมบัติของการทนน้ำ-ทนฝุ่นตามมาตรฐาน
IP54

——————————————-

– จอแสดงผลแบบ Punch Hole Display (IPS LCD) ขนาด 6.64 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ (2388×1080 พิกเซล : 395 PPI)
– ความสว่างสูงสุด
650 nits
– อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง
91%

——————————————

– ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 6020
– หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)
Mali-G57 MC2
– หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด
8 GB
– ฟีเจอร์
Extended RAM 3.0 สำหรับช่วยเพิ่มขนาดหน่วยความจำ RAM เสมือน (Virtual RAM) ได้สูงสุด 8 GB
– หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูล (ROM) ขนาด
256 GB
– ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ
Android 13 พร้อมครอบทับด้วย Funtouch OS 13

——————————————

– แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh
– ระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ
44W FlashCharge (11V/4A)
– ชาร์จแบตเตอรี่ได้ 30% ภายในเวลา 15 นาที

——————————————

กล้องตัวหลักด้านหลัง 2 ตัว (Dual Camera) ประกอบด้วย

– กล้อง Main ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 0.64 ไมครอน, รูรับแสงขนาด f1.8, ทางยาวโฟกัส 26 มิลลิเมตร (มุมรับภาพ 76°) และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF
– กล้อง
Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4

พร้อมฟีเจอร์ Portrait Light, Bokeh Flare Portrait, Multiple Exposure, Two Exposures, Front/Rear Exposure และรองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดระดับ 1080P FHD (1920×1080 พิกเซล : 60 fps)

กล้องด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล

พร้อมเซนเซอร์รับภาพขนาด 1/3.1 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 1 ไมครอน, รูรับแสงขนาด f2.45, ฟีเจอร์ Portrait Bokeh, ฟีเจอร์ Aura Screen Light และรองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดระดับ 1080P FHD (1920×1080 พิกเซล : 30 fps)

—————————————–

– เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง ( Side Mounted Fingerprint Sensor )
– ฟีเจอร์
Audio Booster ที่ช่วยให้เร่งระดับเสียงได้สูงสุด 200%
– เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ Wi-Fi 5, 5G SA/NSA, 4G LTE, 3G WCDMA และ 2G EDGE/GPRS
– รองรับการใช้งานระบบซิมคู่ (Dual SIM : Nano SIM + Nano SIM : Dual Standby)
– เชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง
Bluetooth 5.1
– ระบุตำแหน่ง และนำทางผ่านระบบดาวเทียม GPS+A-GPS, BeiDou, Glonass, Galileo และ QZSS
– พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
– พอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
– วิทยุ FM ในตัว

สรุปคุณสมบัติโดยละเอียด (สเปก) และราคา ของ vivo Y36 5G

 

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ vivo Y36 5G

– ตัวเครื่องผลิตจากพลาสติก
– ไม่มีกล้องมุมกว้างพิเศษ (Ultra Wide)

– ลำโพงเสียงเป็นแบบเดี่ยว (Mono)

– ไม่รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ microSD หรือแบบอื่น ๆ

– จอแสดงผลมีอัตราการรีเฟรชที่ 60Hz
– เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเป็นแบบสแกนด้านข้างตัวเครื่อง


โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางผู้ผลิต เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริง รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจถูกแก้ไขให้ดีขึ้นแล้วในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบ หรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่งเพื่อความมั่นใจ *

 

วันที่ : 06/07/2023