มือถือกันน้ำ 2023 ทำตกน้ำก็ไม่พัง มีรุ่นไหนบ้าง ?

          มัดรวมมือถือกันน้ำ 2023 ที่มีคุณสมบัติกันน้ำมาตรฐาน IP68 แม้ทำตกน้ำก็ไม่พัง มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง เรารวบรวมมาให้แล้ว

มือถือกันน้ำ

           โทรศัพท์มือถือหลายรุ่นในปัจจุบันโดยเฉพาะรุ่นระดับเรือธง มักจะมีคุณสมบัติกันน้ำในตัวด้วย โดยความสามารถในการกันน้ำนั้นจะมีหลายระดับ บางรุ่นก็กันได้เพียงละอองน้ำหรือป้องกันน้ำกระเด็นใส่ แต่บางรุ่นก็สามารถแช่ลงน้ำได้เลย และสำหรับใครที่กำลังมองหามือถือกันน้ำมาใช้สักเครื่อง เราก็ได้คัดเลือกรุ่นที่มีคุณสมบัติกันน้ำมาตรฐาน IP68 (หรือ IPX8) ซึ่งเป็นระดับที่กันน้ำได้ดีที่สุดมาแนะนำเพื่อน ๆ กันแล้ว

IP68 คืออะไร ?

          IP ย่อมาจาก Ingress Protection เป็นมาตรฐานสากลสำหรับวัดระดับการกันน้ำและกันฝุ่นของอุปกรณ์ และจะมีตัวเลขตามหลัง IP อีก 2 ตัว โดยตัวเลขแรกหมายถึง ระดับการป้องกันของแข็ง รวมถึงฝุ่น มีระดับตั้งแต่ 0-6 ส่วนตัวเลขหลังหมายถึง ระดับการกันน้ำของอุปกรณ์ มีระดับ 0-9 ซึ่งสำหรับการกันน้ำเราจะดูที่ตัวเลขหลังสุดเป็นหลัก โดย IP68 จะเป็นตัวบ่งชี้ว่ามือถือรุ่นนั้นสามารถกันน้ำลึกกว่า 1 เมตร ได้นานกว่า 30 นาทีนั่นเอง

มือถือกันน้ำ 2023 ยี่ห้อไหนดี

1. Xiaomi 13 Series

Xiaomi 13 Series
ภาพจาก : mi.com

          มือถือเรือธงที่มีแบ่งเป็น 2 รุ่น โดยรุ่นรอง Xiaomi 13 จะมีหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.36 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz ใช้ชิปตัวแรงล่าสุดอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 รองรับ 5G แรม 12GB ทำให้ใช้งานหรือเล่นเกมได้ลื่นไหล ความจุสูงสุด 256GB กล้องหลัง Leica 3 เลนส์ 50MP กล้องหน้า 32MP กันน้ำ IP68 แบตเตอรี่ 4500mAh ชาร์จเร็ว 67W ชาร์จเต็มในเวลา 38 นาที รวมทั้งชาร์จไร้สาย 50W ส่วนรุ่นท็อป Xiaomi 13 Pro จะมีสเปกหลาย ๆ อย่างสูงกว่า ประกอบไปด้วยหน้า จอโค้งสามมิติขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียด WQHD+ รองรับ Refresh Rate แบบ Dynamic 1-120Hz ความจุ 512GB ลงแอปฯ ลงเกม เก็บรูป ได้เยอะขึ้น กล้องหลังเซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 50MP ทั้งกล้องหลักและเลนส์ Telephoto กับ Ultrawide แบตเตอรี่ 4820mAh ชาร์จเร็ว 120W ชาร์จแบบโหมดเพิ่มประสิทธิภาพเต็มใน 19 นาที และชาร์จแบบโหมดมาตรฐานเต็มใน 24 นาที

          – Xiaomi 13 ราคา 29,990 บาท
          – Xiaomi 13 Pro ราคา 39,990 บาท

2. Samsung Galaxy S23 Series

Samsung Galaxy S23 Series

ภาพจาก : samsung.com

          มือถือเรือธงรุ่นใหม่จากซัมซุง ที่แบ่งออกเป็น 3 รุ่น โดยรุ่นท็อปสุด Galaxy S23 Ultra จะมีสเปกหลาย ๆ อย่างที่เหนือกว่ารุ่นน้อง ได้แก่ หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด Quad HD+ รองรับ Refresh Rate แบบปรับอัตโนมัติได้ 1-120Hz ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 2 แรมสูงสุด 12GB เร็ว แรง เล่นเกมได้ไม่สะดุด ความจุเลือกได้สูงสุด 1TB กล้องหลัง 4 เลนส์ 200MP ถ่ายภาพสวยคมชัด รองรับการเล่นวิดีโอ 8K โดยมีเลนส์ Periscope เพิ่มเข้ามาด้วย รองรับ Optical Zoom 30x ส่วนกล้องหน้า 12MP มีคุณสมบัติกันน้ำ IP68 และแบตเตอรี่ 5000mAh และรัน Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1

          – Galaxy S23 8GB/128GB ราคา 30,900 บาท
          – Galaxy S23 8GB/256GB ราคา 33,900 บาท
          – Galaxy S23+ 8GB/256GB ราคา 37,900 บาท
          – Galaxy S23+ 8GB/512GB ราคา 42,900 บาท
          – Galaxy S23 Ultra 8GB/256GB ราคา 43,900 บาท
          – Galaxy S23 Ultra 12GB/512GB ราคา 49,900 บาท
          – Galaxy S23 Ultra 12GB/1TB ราคา 59,900 บาท

3. Sony Xperia 5 IV

Sony Xperia 5 IV
​ภาพจาก : sony.co.th

          มือถือสเปกระดับเรือธงที่มีหน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz ช่วยให้แสดงภาพเคลื่อนไหวได้ลื่นไหล ใช้ชิปตัวแรงระดับท็อป Snapdragon 8 Gen 1 แรม 8GB เล่นเกมได้สบายไม่สะดุด ความจุ 128GB/256GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 12MP มีระบบโฟกัสดวงตาแบบเรียลไทม์ สามารถถ่ายวิดีโอ 4K HDR 120fps ได้ มีระบบโฟกัสดวงตาอัตโนมัติ กล้องหน้า 12MP พร้อมคุณสมบัติกันน้ำมาตรฐาน IP68 แบตเตอรี่ 5000mAh และรันระบบปฏิบัติการ Android 12

          – ราคา 39,990 บาท

4. iPhone 14 Series

iPhone 14 Seriesภาพจาก : apple.com

          iPhone ซีรีส์ปี 2022 ได้มีการอัปเกรดสเปก โดยiPhone 14 Pro และ Pro Max จะใช้ชิปประมวลผลตัวใหม่ คือ A16 Bionic ส่วนรุ่นรองอย่าง iPhone 14 และ 14 Plus ถึงแม้ว่าจะใช้ชิป A15 Bionic แต่ก็มีการอัปเกรดประสิทธิภาพด้านการประมวลผลกราฟิกให้ดีขึ้น สำหรับหน้าจอจะมีขนาด 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว โดยในรุ่น Pro จะมาพร้อมเทคโนโลยี ProMotion 120Hz ด้วย ด้านกล้องหลังของ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus จะเป็นแบบเลนส์คู่ ความละเอียด 12MP แต่ในรุ่นท็อปอย่าง iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max จะเป็น 3 กล้อง 48MP และรันระบบปฏิบัติการ iOS 16

          – iPhone 14 ราคาเริ่มต้น 32,900 บาท
          – iPhone 14 Plus ราคาเริ่มต้น 37,900 บาท
          – iPhone 14 Pro ราคาเริ่มต้น 41,900 บาท
          – iPhone 14 Pro Max ราคาเริ่มต้น 44,900 บาท

5. Samsung Galaxy Z Fold4

Samsung Galaxy Z Fold4
ภาพจาก samsung.com

          มือถือจอพับรุ่นใหญ่ที่มีหน้าจอหลัก Dynamic AMOLED 2X ขนาด 7.6 นิ้ว 120Hz รองรับการใช้ปากกา S Pen เมื่อพับแล้วจะมีหน้าจอด้านนอก Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.2 นิ้ว อีก 1 จอ เป็น 120Hz เช่นกัน ใช้ชิปตัวแรงระดับเรือธง Snapdragon 8+ Gen 1 รองรับ 5G แรม 12GB มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP กล้องหน้า 48MP ซ่อนใต้จอได้แนบเนียนกว่ารุ่นที่แล้ว สามารถกันน้ำที่ระดับ IPX8 และแบตเตอรี่ขนาด 4400mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W ชาร์จไร้สาย 15W และรัน Android 12 ครอบทับด้วย One UI 4.1

          – รุ่น 12GB/256GB ราคา 59,900 บาท
          – รุ่น 12GB/512GB ราคา 65,900 บาท
          – รุ่น 12GB/1TB ราคา 75,900 บาท

6. Samsung Galaxy Z Flip4

Samsung Galaxy Z Flip4
ภากจาก samsung.com

          มือถือจอพับได้ในสไตล์มือถือฝาพับ มีหน้าจอหลัก Dynamic AMOLED 2X  ขนาด 6.7 นิ้ว Full HD+ รองรับ 120Hz สามารถแสดงภาพได้สวยคมชัดและลื่นไหล เมื่อพับแล้วจะมีหน้าจอด้านนอกขนาด 1.9 นิ้ว ใช้ชิป Snapdragon 8+ Gen 1 แรงระดับเรือธง พร้อมทั้งรองรับ 5G มีแรม 8GB กล้องหลังคู่ 12MP กล้องหน้า 10MP และแบตเตอรี่ขนาด 3700 mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W ชาร์จไร้สาย 15W กันน้ำที่ระดับ IPX8 และรัน Android 12 ครอบทับด้วย One UI 4.1

          – รุ่น 8GB/128GB ราคา 35,900 บาท
          – รุ่น 8GB/256GB ราคา 38,900 บาท
          – รุ่น 8GB/512GB ราคา 44,900 บาท
          – รุ่น Bespoke Edtition 8GB/128GB ราคา 39,900 บาท

7. vivo X80 Series 5G

vivo X80 Series 5G
ภาพจาก : vivo.com

          มือถือซีรีส์เรือธงของ vivo ที่รุ่นท็อปสุดอย่าง X80 Pro 5G จะมาพร้อมหน้าจอ E5 LTPO AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K รองรับ Refresh Rate 120Hz ชิปประมวลผลเลือกได้ระหว่าง Dimensity 9000 และ Snapdragon 8 Gen 1 แรมสูงสุด 12GB ความจุสูงสุด 512GB กล้องหลัง ZEISS 4 เลนส์ 50MP มีเลนส์ Periscope Telephoto ที่รองรับ Optical Zoom 5x ส่วนกล้องหน้า 32MP แบตเตอรี่ 4700mAh รองรับชาร์จเร็ว 80W และชาร์จไร้สาย 50W กันน้ำที่ระดับ IP68 รันระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย OriginOS Ocean

          – vivo X80 ราคา 29,999 บาท
          – vivo X80 Pro ราคา 39,999 บาท

8. Sony Xperia 1 IV

Sony Xperia 1 IV
ภาพจาก : sony.co.th

           มือถือเรือธงระดับพรีเมียมที่มีสเปกประกอบไปด้วย หน้าจอ OLED ขนาด 6.5 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูงถึง 4K HDR พร้อมทั้งรองรับ Refresh Rate 120Hz ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 1 แรม 12GB ใช้งานและเล่นเกมได้ลื่นไม่สะดุด ความจุ 256GB กล้องหลัง 4 เลนส์ 12MP + TOF 3D สามารถถ่ายวิดีโอ 4K HDR ที่ 120fps ได้ มีระบบโฟกัสดวงตาอัตโนมัติ กล้องหน้า 12MP แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 30W กันน้ำที่ระดับ IP68 และรันระบบปฏิบัติการ Android 12

           – ราคา 48,990 บาท

9. OPPO Find X5 Pro 5G

OPPO Find X5 Pro 5G
ภาพจาก : oppo.com

           มือถือเรือธงรุ่นนี้จะมีสเปกอยู่ในระดับท็อป ประกอบไปด้วย หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz และ Touch Sampling Rate 240Hz ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 แรม 12GB ความจุ 256GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP เป็นกล้องที่พัฒนาร่วมกับ Hasselblad รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K HDR พร้อมความสามารถในการถ่ายในที่มืดด้วยพลังของชิป MariSilicon X บวกกับมีระบบกันสั่น SLR-Level 5-Axis OIS ส่วนกล้องหน้า 32MP มีแบตเตอรี่ 5000mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 80W และชาร์จไร้สาย 50W กันน้ำที่ IP68 รันระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย ColorOS 12.1

           – ราคา 39,990 บาท

10. Sony Xperia 10 IV

Sony Xperia 10 IV
ภาพจาก : sony.co.th

           มือถือรุ่นระดับกลางของ Sony ที่มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำมาตรฐาน IP68 มีหน้าจอ OLED ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 695 รองรับ 5G สามารถใช้งานทั่วไปและเล่นโซเชียลได้ไม่สะดุด แรม 6GB ความจุ 128GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 12MP กล้องหน้า 8MP แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 21W และรันระบบปฏิบัติการ Android 12

           – ราคา 16,990 บาท

วิธีเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ

          สำหรับการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือนั้น นอกจากเรื่องของความชอบส่วนตัวแล้วยังมีอีกหลายปัจจัยที่ผู้ซื้อควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นจุดประสงค์ของการนำมาใช้งาน สเปกเครื่อง ราคา หน้าร้านหรือช่องทางการสั่งซื้อ ไปจนถึงวิธีการตรวจเช็กเบื้องต้น ทั้งนี้ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ซื้อโทรศัพท์ใหม่ ต้องเช็กอะไรบ้าง

          และทั้งหมดนี้ก็คือมือถือกันน้ำรุ่นเด่น ๆ ที่กำลังจำหน่ายในช่วงปีนี้ ใครที่กำลังมองหามือถือกันน้ำอยู่ก็น่าจะตัดสินใจเลือกกันได้ง่ายขึ้น แต่ถึงแม้ว่าจะใช้มือถือกันน้ำแล้ว การระวังไม่ให้มือถือตกน้ำหรือเปียกน้ำไว้ก่อนก็น่าจะดีที่สุดครับ

บทความมือถือใหม่อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

           – มือถือราคาไม่เกิน 8,000 บาท ปี 2023 มีรุ่นไหนบ้าง
           – มือถือเล่นเกม 2023 สเปกแรง เหมาะกับชาวเกมเมอร์
           – มือถือราคาไม่เกิน 7,000 บาท ปี 2023 มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง ?
           – มือถือแบตฯ ทน 2023 ใช้ได้ยาวนาน ไม่ต้องชาร์จบ่อย ๆ
           – iPhone 2023 มีรุ่นไหนให้เลือกซื้อบ้าง เช็กเลย !

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : apple.com, samsung.com, sony.co.th, oppo.com, vivo.com, mi.com