มือถือกล้องเทพ 2023 จัดอันดับโดย DxOMark

          10 อันดับ มือถือกล้องเทพ 2023 จัดอันดับโดยเว็บไซต์ DxOMark จะมีโทรศัพท์มือถือรุ่นไหนกล้องถ่ายสวยบ้าง มาดูกันเลย

มือถือกล้องเทพ

          คงปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันนอกจากเรื่องสเปกและราคาแล้ว กล้องมือถือก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่หลายคนใช้ในการพิจารณาเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ โดยแต่ละแบรนด์ก็พยายามปรับปรุงพัฒนากล้องเพื่อให้มีประสิทธิภาพขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งในวันนี้เรามี 10 มือถือกล้องเทพประจำปี 2023 ที่ให้คะแนนโดยเว็บไซต์จัดอันดับเรื่องกล้องถ่ายรูป เซ็นเซอร์ เลนส์ และกล้องมือถือ อย่าง DxOMark มาให้ดูกันว่ามีรุ่นไหนบ้าง

มือถือกล้องเทพ ปี 2023 จาก DxOMark

1. OPPO Find X6 Pro – 153 คะแนน

OPPO Find X6 Pro
ภาพจาก : Oppo

          มือถือเรือธง OPPO ที่มีหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ถึง 6.82 นิ้ว กับความละเอียดระดับ QHD+ รองรับ Refresh Rate 1-120Hz ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 แรมสูงสุด 16GB ความจุสูงสุด 512GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP พร้อมเลนส์ Periscope Telephoto เพื่อประสิทธิภาพในการซูม กล้องหน้า 32MP ถ่ายเซลฟี่ได้ละเอียดคมชัด สามารถกันน้ำได้ที่มาตรฐาน IP68 แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 100W ที่ชาร์จได้ 50% ในเวลาเพียงแค่ 10 นาที และรันระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย Color OS 13.1

          – ราคาเริ่มต้นประมาณ 29,900 บาท

2. Honor Magic5 Pro – 152 คะแนน

Honor Magic5 Pro
ภาพจาก : Honor

          มือถือ Honor รุ่นระดับเรือธง มาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาดใหญ่ถึง 6.81 นิ้ว ความละเอียด 2848 x 1312 พิกเซล ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 แรมสูงสุด 16GB ความจุสูงสุด 512GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP เน้นการซูมด้วยเลนส์ Periscope Telephoto บวกกับ ToF 3D เพื่อใช้ตรวจจับความลึกของวัตถุขณะถ่ายภาพ กล้องหน้าความละเอียด 12MP แบตเตอรี่ 5100mAH รองรับชาร์จเร็ว 66W และรันระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย Magic UI 7.1

          – ราคาเริ่มต้นประมาณ 28,900 บาท

3. OPPO Find X6 – 150 คะแนน

OPPO Find X6
ภาพจาก : Oppo

          มือถือเรือธงรุ่นรองจาก OPPO Find X6 Pro ที่มีสเปกประกอบไปด้วย หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.74 นิ้ว ความละเอียด 2772 x 1240 พิกเซล รองรับ Refresh Rate 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 9200 โดยมีแรมสูงสุด 16GB ความจุสูงสุด 512GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP พร้อมเลนส์ Periscope Telephoto และกล้องหน้า 32MP เหมือนกับรุ่นท็อป สามารถกันน้ำกระเด็นใส่ได้ที่ระดับ IP64 แบตเตอรี่ 4800mAh รองรับชาร์จเร็ว 80W และรันระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย Color OS 13.1

          – ราคาเริ่มต้นประมาณ 22,900 บาท

4. Huawei Mate 50 Pro – 149 คะแนน

Huawei Mate 50 Pro
ภาพจาก : Huawei.com

          มือถือเรือธงซีรีส์ Mate จาก Huawei รุ่นนี้ มีหน้าจอ OLED ขนาด 6.74 นิ้ว ความละเอียด 2616 x 1212 พิกเซล รองรับ Refresh Rate 120 Hz ใช้ชิป Snapdragon 8+ Gen 1 แต่ไม่รองรับ 5G แรม 8GB ความจุ 256GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP พร้อมเลนส์ Periscope Telephoto 64MP เพื่อเน้นการซูม กล้องหน้า 13MP แบตเตอรี่ 4700mAH รองรับชาร์จเร็ว 66W และรันระบบปฏิบัติการ EMUI 13

          – ราคา 43,990 บาท

5. Google Pixel 7 Pro – 147 คะแนน

Google Pixel 7 Pro
ภาพจาก : Google

          มือถือจาก Google ที่มาพร้อมสเปกระดับเรือธง ประกอบไปด้วย หน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ ที่สูงกว่ามือถือทั่วไป ใช้ชิปประมวลผล Google Tensor G2 รองรับ 5G มีแรม 12 GB LPDDR5 ความจุเลือกได้สูงสุด 512GB กล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP บวกกับเซ็นเซอร์ LDAF กล้องหน้า 10.8MP แบตเตอรี่ 5000mAh สามารถใช้งานได้นานเกิน 24 ชั่วโมง หรือใช้ได้ถึง 72 ชั่วโมง เมื่อเปิดโหมดประหยัดพลังงาน และรันระบบปฏิบัติการ Android 12

          – ราคาประมาณ 33,900 บาท

6. Honor Magic4 Ultimate – 147 คะแนน

Honor Magic4 Ultimate
ภาพจาก : Honor

          มือถือสเปกเรือธงเน้นกล้องจาก Honor รุ่นนี้ มีหน้าจอ OLED ขนาด 6.81 นิ้ว ความละเอียด 1312 × 2848 พิกเซล ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 รองรับ 5G แรม 12GB ความจุ 512GB กล้องหลังจัดมาให้ถึง 4 เลนส์ 50MP พร้อมเลนส์ Periscope Telephoto ที่รองรับ 3.5x Optical Zoom และ 100x Digital Zoom กล้องหน้า 12MP แบตเตอรี่ 4600mAh รองรับชาร์จเร็ว 100W และรันระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย Magic UI 6.0

          – ราคาประมาณ 41,900 บาท

7. iPhone 14 Pro Max – 146 คะแนน

iPhone 14 Pro Max
ภาพจาก : Apple

          iPhone ซีรีส์ปี 2023 รุ่นท็อป ที่ได้มีการอัปเกรดสเปกมาใช้ชิปประมวลผลตัวใหม่ คือ A16 Bionic โดยจะมีหน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี ProMotion 120Hz ทำให้แสดงภาพเคลื่อนไหวได้อย่างลื่นไหล ด้านกล้องหลังจะเป็น 3 เลนส์ ความละเอียดอัปเกรดมาเป็น 48MP ส่วนแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานกว่า iPhone 13 Pro Max และรันระบบปฏิบัติการ iOS 16

          – ราคาเริ่มต้น 44,900 บาท

8. iPhone 14 Pro – 146 คะแนน

iPhone 14 Pro
ภาพจาก : Apple

          iPhone 14 Series รุ่นรองท็อป ที่ได้มีการอัปเกรดสเปกมาใช้ชิปประมวลผลตัวใหม่ คือ A16 Bionic โดยจะมีหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี ProMotion 120Hz ทำให้แสดงภาพเคลื่อนไหวได้อย่างลื่นไหล ด้านกล้องหลังจะเป็น 3 เลนส์ ความละเอียดอัปเกรดมาเป็น 48MP ส่วนแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานกว่า iPhone 13 Pro และรันระบบปฏิบัติการ iOS 16

          – ราคาเริ่มต้น 41,900 บาท

9. Huawei P50 Pro – 143 คะแนน

Huawei P50 Pro
ภาพจาก : Apple

          มือถือเรือธงที่มาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องแบบใหม่ มีหน้าจอ OLED ขนาด 6.5 นิ้ว ขอบด้านข้างแบบโค้ง ใช้ชิปตัวแรงอย่าง Snapdragon 888 บวกกับกล้อง Leica เน้นการถ่ายรูปและการซูมได้ดีเยี่ยม พร้อมเลนส์ B/W และเลนส์ Telephoto สามารถซูมแบบ Optical ได้สูงสุด 3.5x และซูมแบบ Digital ได้สูงสุดถึง 200x เลยทีเดียว สำหรับสเปกอื่น ๆ ก็มีแรม 8GB ความจุ 256GB แบตเตอรี่ 4360mAh รองรับชาร์จเร็ว 66W และชาร์จไร้สาย 50W

          – ราคา 33,990 บาท

10. Xiaomi Mi 11 Ultra – 141 คะแนน

Xiaomi Mi 11 Ultra
 ภาพจาก : Xiaomi

          มือถือเรือธงที่มีกล้องหลัง 3 ตัว ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับกล้องโปร และยังมีหน้าจอเล็กอยู่ข้างกล้องสำหรับแสดงภาพจากกล้องหลังหรือแจ้งเตือนต่าง ๆ อีกด้วย บวกกับขุมพลังจากชิป Snapdragon 888 หน้าจอ AMOLED โค้ง 4 ด้าน อัตรารีเฟรชเรต 120Hz รวมทั้งรองรับชาร์จไวด้วยสายและไร้สาย 67W โดย Mi 11 Ultra รุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทย จะมีแรม 12GB และความจุ 256GB

          – ราคา 33,990 บาท

วิธีเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ

          สำหรับการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือนั้น นอกจากเรื่องของความชอบส่วนตัวแล้วยังมีอีกหลายปัจจัยที่ผู้ซื้อควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นจุดประสงค์ของการนำมาใช้งาน สเปกเครื่อง ราคา หน้าร้านหรือช่องทางการสั่งซื้อ ไปจนถึงวิธีการตรวจเช็กเบื้องต้น ทั้งนี้ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ซื้อโทรศัพท์ใหม่ ต้องเช็กอะไรบ้าง

          อย่างไรก็ตาม มือถือบางรุ่นที่ติด 10 อันดับดังกล่าว ไม่ได้มีการวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งผู้ที่อยากได้มาใช้งานอาจต้องหาซื้อตามร้านหิ้ว โดยราคาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับร้านที่จำหน่าย รวมทั้งไม่มีการรับประกันจากศูนย์บริการในไทย จึงควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อนะครับ

บทความมือถือใหม่อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

           – มือถือกันน้ำ 2023 ทำตกน้ำก็ไม่พัง มีรุ่นไหนบ้าง ?
           – มือถือราคาไม่เกิน 8,000 บาท ปี 2023 มีรุ่นไหนบ้าง
           – มือถือเล่นเกม 2023 สเปกแรง เหมาะกับชาวเกมเมอร์
           – มือถือราคาไม่เกิน 7,000 บาท ปี 2023 มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง ?
           – มือถือแบตฯ ทน 2023 ใช้ได้ยาวนาน ไม่ต้องชาร์จบ่อย ๆ

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : google.com, hihonor.com, apple.com, huawei.com, mi.com, dxomark.com